ตำรวจ สภ.เขาสวนกวาง คุมตัวนายวศิน นามพรหม หนึ่งในผู้ต้องฆ่าหั่นศพนางสาว วริศราไปฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่นผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน หลังถูกแจ้ง 3 ข้อหา คือ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย และปล้นทรัพย์ รับของโจร โดยตำรวจคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน
ส่วนภาพรวมของคดีวันนี้ พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวณิชย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดี เพื่อติดตามผู้ต้องหาอีก 3 คน ที่อยู่ระหว่างหลบหนี และปรากฎข้อมูลว่า เดินทางข้ามแดนไปยังประเทศเมียนมาร์ บริเวณชายแดนอำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย ประกอบด้วย นางสาวปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว นางสาวจิดารัตน์ พรหมคุณ หรือ เบนซ์ และนางสาวอภิวันท์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้
พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวณิชย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า แม้จะยังจับไม่ได้ แต่จากการทำงานร่วมกับตำรวจเมียนมาร์ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี และได้เบาะแสที่เป็นประโยชน์ระดับหนึ่ง ส่วนกระแสข่าวว่า การฆาตกรรมนางสาววริศรามาจากใบสั่งฆ่าตัดตอนของขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ ชุดคลี่คลายคดีของตำรวจภูธรภาค 4 ยังไม่พบหลักฐานที่จะเชื่อได้ว่าเป็นอย่างนั้น เพราะตามข้อมูลกลุ่มผู้ต้องหาและผู้ตายเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในฐานะเพียงแค่ผู้เสพและผู้ค้ารายย่อยในจังหวัด
ประเด็นนี้สอดคล้องกับ พล.ต.ต. พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ที่ยังคงให้น้ำหนักแรงจูงใจการฆ่านางสาววนิศรา ไปที่ความขัดแย้งส่วนตัวกับ นางสางปรียานุช ผู้ลงมือ เพราะชนวนเหตุขัดแย้งกัน ก็เพียงพอและมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้ โดยเฉพาะข้อมูลชุดที่ว่า ผู้ตายได้แจ้งความจับสามีของนางปรีชานุช เมื่อเดือนตุลาคมปี 2559
ส่วนประวัติความเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด ของนางสาวปรียานุช หรือ เปรี้ยว แม้ตำรวจในพื้นที่พบว่า เป็นเพียงผู้เสพและผู้ค้ารายย่อย แต่นายศิรินทร์ยา สิทธิยา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า เธอมีประวัติเคยถูกดำเนินคดีฐานครอบครองยาเสพติดเมื่อช่วงปี 2557 และเชื่อมโยงกับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดท่าขี้เหล็ก เมียนมาร์ อีกทั้งยังอาจเป็นเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มว้าแดง และมูเซอ
เพราะจากข้อมูลเฟซบุ๊ก และข้อมูลการสืบสวนของ ป.ป.ส. ชัดเจนว่า “เปรี้ยว” เคยติดต่อกับเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลว่า “เปรี้ยว” อยู่ในระดับใด หรือทำหน้าที่ใดในเครือข่ายโดยข้อมูลของเครือข่ายนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ทราบว่าเป็นเครือข่ายที่ส่วนใหญ่มีคนไทยเป็นหัวหน้ากลุ่มและส่งยาบ้าตั้งแต่หลักแสนเม็ดถึงล้านเม็ด