“มายเมดเนท” แจงคลิป “แมวสู้แมงป่อง” เพียงแค่สอนบทเรียนให้แมว


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กลายเป็นถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากในโลกออนไลน์ หลังจากมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่ชื่อว่า "แมว vs แมงป่อง ใครจะชนะ" ความยาวเกือบ 5 นาที โดยผู้ใช้ยูทูปชื่อ "มายเมดเนท" หลังปล่อยให้แมวของตัวเองสู้กับแม่งป่องและทำคลิปมาเผยแพร่อย่างสนุกสนาน จนคนรักแมวต้องเข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อวานนี้ ในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ขณะที่ผู้ใช้โซเชียลก็ต่างถกเถียงกันไปมา และมีการเข้าไปโพสต์ข้อความไม่เห็นด้วยในยูทูปและแฟนเพจของเจ้าของคลิป จนล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาฝรั่งเจ้าของคลิปได้อัดคลิปวิดีโอเพื่อชี้แจงสิ่งที

“ดราม่าอีกแล้ว...เดี๋ยวผมจะอธิบาย” ชื่อของคลิปวิดีโอความยาวกว่า 20 นาที ถูกโพสต์ลงโดยผู้ใช้ยูทูปที่ชื่อว่า My Mate Nate ซึ่งเป็นการอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่าให้ฟังให้จบก่อนที่จะแสดงความคิดเห็น ถูกโพสต์โดยนาย เนท บาร์ทลิ่ง ชาวอเมริกัน ผู้เผยแพร่คลิปแมว Vs แมงป่อง โดยเขาได้ชี้แจงว่า สิ่งที่เขาโดนดราม่าอยู่ในขณะนี้ มีอยู่ 5 อย่างคือ 1. แมว 2.ดราม่าที่เคยเกิดขึ้น 3 เรื่องกฎหมาย 4. เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับเยาวชนและเด็กไทย และสุดท้ายคือคนที่เข้ามาด่า โดยเขาได้บอกถึงสาเหตุที่ไม่ลบคลิปวิดีโอที่กลายเป็นกระแสดราม่าว่า เพราะไม่ได้ต้องการให้คนคิดว่าตัวเองหนี และการที่ไม่ออกมาชี้แจงเพราะอยากเห็นกระแสที่เกิดขึ้น และได้มีการรวบรวมข้อมูล จึงจำเป็นต้องใช้เวลา 2-3 วัน ก่อนจะอัดคลิปนี้เพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมกับวอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับครอบครัวของเขา มูลนิธิที่ไปรับแมวมาเลี้ยง รวมถึงศาสนาที่เขานับถือ และย้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นปัญหาอยู่ที่ตัวเขาคนเดียว 

เนท บาร์ทลิ่ง ได้ชี้แจงว่า สำหรับแมวทั้งสองตัว สุขภาพยังดี ไม่มีเลือดไหลจากการต่อสู่กับแมงป่อง แต่ยอมรับว่ามีโดนหนีบปากนิดนึงจากคลิปวิดีโอที่สู้กับแมงป่อง ยอมรับว่าแมงป่องมีพิษจริง แต่ไม่มีท่อส่งพิษจึงทำให้แมวไม่ได้รับอันตราย ส่วนทำไมถึงมีแมงป่องที่บ้าน เขาได้อธิบายว่าเนื่องจากมีการเตรียมพร้อมที่จะถ่ายคลิปเรื่องแมงป่อง โดยไปซื้อแมงป่องมาที่ถนนข้าวสาร โดยวันเกิดเหตุสิ่งที่เกิดขึ้นพบว่ากลับมาบ้านแล้วแมวกำลังต่อสู่กับแมงป่อง เพราะแมวเปิดประตูห้องครัวได้ โดยมีการนำคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นความแมวได้เปิดประตูเข้าไปในห้องครัวเองได้ ก่อนจะบอกว่าหลังจากนั้นจึงได้มีการล็อกประตูเพื่อไม่ให้แมวเปิดประตูเข้าไปอีก 

"ทันทีที่ผมเห็นแมวสู้กับแมงป่อง ผมก็หยิบมือถือมาแล้วถ่าย เหมือนตอนที่เราอยู่ในที่สาธารณะ เห็นเหตุการณ์แปลกๆ ก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่าย และในกรณีนี้ก็หยิบกล้องมาแล้วถ่าย จุดนี้อาจจะเป็นจุดที่ผมพลาด แต่สิ่งที่คิดอยู่คือการเปรียบเทียบเรื่องการเลี้ยงลูกการเลี้ยงลูก และคิดว่าแมงป่องไม่สามารถส่งพิษถึงแมวได้ และคิดว่าเป็นโอกาสดี ที่แมวควรจะเรียนรู้ว่าไม่ควรเล่นกับแมงป่อง การสอนแมวในกรณีนี้เหมือนกับการสอนลูก ก่อนที่จะมีการอัพคลิปในที่สาธารณะจนหลายคนคิดว่ามันเกินไป แต่ส่วนมองว่าเป็นบทเรียนสำหรับแมว ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายแมวหรือให้บาดเจ็บ แค่อยากให้แมวเรียนรู้ด้วยตนเอง และเป็นธรรมชาติของแมว"

ส่วนคลิปวิดีโอที่มีผูกแมวติดกับลูกโป่งและปล่อยให้ลอยขึ้นฟ้านั้น เขาได้อธิบายว่า ไม่ได้มีการโยนแมวลงจากที่สูง คิดว่าคนที่วิจารณ์คงไม่ได้ดูคลิปนั้น และยืนยันว่ามีสิ่งที่รองรับแมวเพื่อป้องกันการกระแทกด้วย ซึ่งเขามองว่าเรื่องนี้เป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์ เราสอนวิทยาศาสตร์ว่าแมวจัดระเบียบร่างกายอย่างไร แมวสบายดี และเขาเป็นคนรักแมว ขณะที่เคยเกิดเหตุการณ์ที่มีดราม่าครั้งก่อนๆนั้น เขาจะนำสิ่งที่เกิดขึ้นมาปรับปรุงตัว และยืนยันว่าจะไม่มีคลิปอะไรแบบนี้อีกแล้ว

ขณะที่ กรณีที่มีหลายข้อความที่มาแสดงความคิดเห็นถามว่า เนท บาร์ทลิ่ง อยู่ในประเทศไทยอย่างไรนั้น เขาได้อธิบายว่าได้ ผมทำงานในบริษัทในประเทศไทย และมีเวิร์คเพอร์มิทและวีซ่าที่จะอยู่ในประเทศไทยได้ปีต่อปี ผมเสียภาษีที่บ้านเกิดของผมและประเทศไทยด้วย ส่วนเรื่องที่มีการไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนั้น พร้อมที่จะรับผิดชอบและนำหลักฐานไปแสดงด้วย


ขอบคุณภาพประกอบจาก : My Mate Nate

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ