กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่าเครื่องบินขับไล่ของสหรัฐฯ ได้ยิงเครื่องบินรบ ซู-22 ของกองทัพซีเรียตกบริเวณน่านฟ้าเมืองรักกาทางตอนเหนือของซีเรีย โดยให้เหตุว่าเป็นการโจมตีเพื่อป้องกันตัวเอง เนื่องจากเครื่องบินรบของซีเรียได้ทิ้งระเบิดใกล้กองกำลังกองกำลังฝ่ายประชาธิปไตยชาวซีเรียที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุน
นับเป็นครั้งแรกที่เครื่องบินรบของกองทัพซีเรียถูกยิงตกโดยสหรัฐฯ นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองประทุในซีเรียปะทุขึ้นเมื่อปี 2011 ด้านกองทัพซีเรียได้ออกมาประณามการโจมตีของสหรัฐฯ ว่าเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของรัฐซีเรีย และจะส่งผลกระทบที่ร้ายแรงตามมา พร้อมกับอ้างว่าเครื่องบินรบที่ถูกสหรัฐฯ ยิงตกนั้น กำลังอยู่ระหว่างเดินทางไปปฏิบัติภารกิจโจมตีกลุ่มนักรบไอเอส
ส่วนทางรัสเซียที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลซีเรีย ก็ได้ออกมาเตือนว่าจะมองเครื่องบินของกองทัพพันธมิตรสหรัฐฯ เป็นเป้าหมายเช่นกัน พร้อมกับจะระงับการสื่อสารกับสหรัฐฯ ตามข้อตกลงหลีกเลี่ยงการปะทะกันทางอากาศด้วย
ขณะเดียวกัน หลังจากที่สหรัฐฯ ยิงเครื่องบินรบซีเรียตกไปได้ไม่กี่ชั่วโมง อิหร่านก็ได้ทำการยิงขีปนาวุธโจมตีเป้าหมายที่สงสัยว่าเป็นกลุ่มไอเอสทางตะวันออกของซีเรีย ซึ่งถือเป็นการยิงขีปนาวุธออกนอกประเทศครั้งแรกในรอบสามสิบปีนับตั้งแต่สงครามอิรัก-อิหร่าน ช่วงปี 1980-1988 เป็นที่น่าจับตาว่าความเคลื่อนไหวสองเหตุการณ์นี้สงครามกลางเมืองในซีเรียกำลังจะทวีความตึงเครียดและขยายวงกว้างขึ้นหรือไม่