ศูนย์ BDMS Alarm Center ให้บริการผู้ป่วยวิกฤตและฉุกเฉินอย่างครบวงจรตามมาตรฐานสากล แบบ One Number, All Access โดยมี คอลเซ็นเตอร์ที่ให้บริการในประเทศไทย หมายเลข 1724 สำหรับภาษาไทย และบริการทั่วโลกด้วยหมายเลข +662 Bangkok สำหรับภาษาอังกฤษและภาษาอื่นๆ เพื่อให้บริการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินในนาทีชีวิต ทั้ง 7 วัน ตลอด 24 ชั่วโมง และเครือข่ายด้านยานพาหนะที่ใช้ในการแพทย์ เพื่อให้การเข้าถึงและการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเป็นไปอย่างรวดเร็วและด้วยวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็น ทางบก ทางเรือ หรือทางอากาศ ซึ่งนอกเหนือจากการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว ยังสามารถส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเข้าดูแลผู้ป่วยในพื้นที่ด้วย
นพ.สมมาตร สมศิริ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ศูนย์ BDMS Alarm Center เป็นศูนย์กลางของเครือข่ายโรงพยาบาล BDMS ซึ่งมีทั้งหมด 45 แห่ง ประกอบด้วย 6 กลุ่มโรงพยาบาล กระจายทั่วทั้งประเทศไทยและกัมพูชา นับเป็นเครือข่ายศูนย์อุบัติเหตุครบวงจรที่จัดตั้งขึ้นโดยเครือโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกในประเทศไทยโดยทีมงานประจำศูนย์ฯ ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และพยาบาลที่อยู่ประจำศูนย์ฯ ตลอด ทั้ง 7 วัน และ 24 ชั่วโมง สามารถให้การประเมินข้อมูลผู้ป่วยฉุกเฉินเบื้องต้น พร้อมประสานทีมแพทย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเครือข่ายด้านยานพาหนะที่ใช้ในการแพทย์ เพื่อให้การเข้าถึงและการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเป็นไปอย่างรวดเร็วและด้วยวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินบุคคลากรทางการแพทย์ของเราจะสอบถามข้อมูลเบื้องต้นที่จำเป็นให้ได้มากที่สุด เช่น สถานที่ ภาวะอาการเป็นอย่างไร เพื่อประเมินสถานการณ์เบื้องต้นว่าจะส่งทีมแพทย์ระดับใดและจากพื้นที่ไหนออกไปดูแลเบื้องต้น โดยจะมีการประสานให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลใกล้เคียงก่อน และที่เหลือศูนย์ฯ จะมีการประสานว่า โรงพยาบาลนั้นมีขีดความสามารถในการรักษาผู้ป่วยได้หรือไม่ ถ้ารักษาได้ก็ดำเนินต่อไป หรือถ้าต้องการการรักษาที่มากขึ้นหรือคนไข้มีภาวะรุนแรงหรือวิกฤต เราก็มีทีมงานที่จะนำผู้ป่วยมายังโรงพยาบาลหรือสถานที่ที่ใหญ่ขึ้นและสามารถรองรับได้
“ทางศูนย์ฯ จะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็ว หรือที่เราเรียกว่า เบส (BES) โดยจะมีทั้งส่วนที่เป็นรถพยาบาล และหากมีสภาพการจราจรที่ติดขัดแบบในกรุงเทพฯ เราจะมีมอเตอร์ไซค์ มีพยาบาลที่ได้รับการเทรนขั้นสูง ล่วงหน้าไปก่อน โดยบนมอเตอร์ไซค์มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตเบื้องต้น ทั้ง ออกซิเจน หน้ากาก ท่อทางเดินหายใจ และมีระบบการสื่อสาร เมื่อพยาบาลเจอคนไข้ ก็จะรายงานกลับมาว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนไข้บ้าง และมีการประสานกับโรงพยาบาล เพื่อเริ่มการรักษาต่อเนื่องได้เลย” นายแพทย์สมมาตร สมศิริ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ อธิบายวิธีการเข้าถึงผู้ป่วยฉุกเฉิน
สำหรับขีดความสามารถในการดูแลผู้ป่วยในพื้นที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่มีทั้ง ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย จีนตอนใต้ และญี่ปุ่น โดย นพ.สมมาตร สมศิริ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า การรับผู้ป่วยจากต่างประเทศส่วนใหญ่จะเดินทางมาโดยเครื่องบินที่จัดเครื่องบินลำนั้นเป็น “แอร์ แอมบูแลนซ์” เป็นเที่ยวบินพยาบาล เพื่อเคลื่อนย้ายผู้ป่วยด้วยความปลอดภัย ส่วนระยะทางใกล้ๆ การเคลื่อนย้ายภายในประเทศ เรามีเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ เพื่อที่จะย้ายผู้ป่วยได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนการดูแลบนเครื่องบินจะมีอุปกรณ์มากมาย ซึ่งเปรียบเป็นห้อง ICU ขนาดย่อมๆ หรือที่เราเรียกว่า “Sky ICU” โดยจะมีอุปกรณ์เหล่านี้พร้อมแพทย์ และพยาบาลเดินทางไปด้วย บางครั้งที่เคสรุนแรง ก็อาจจะต้องใช้แพทย์ 2 คน พยาบาล 2 คน ขณะที่ทีมแพทย์และพยาบาลก็จะมีการฝึกอบรมอยู่เสมอ นอกจากเราจะตรวจสอบกันเองแล้ว ก็ยังมีหน่วยงานจากสหรัฐอเมริกามาตรวจสอบมาตรฐานทั้งระบบ การให้บริการ การรักษา บุคคลากรทุก 2-3 ปีด้วย”
ขณะที่ นพ.สุทร บวรรัตนเวช ผู้อำนวยการใหญ่ ศูนย์อุบัติเหตุและออร์โธปิดิกส์ ในเครือบริษัทและผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์กระดูกและข้อกรุงเทพ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่เครือ BDMS เข้าร่วมงานในครั้งนี้เนื่องจากประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวค่อนข้างเยอะ การมาร่วมงานในครั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่า เราพร้อมที่จะดูแลผู้ป่วยหากเกิดอุบัติเหตุหรือ เหตุฉุกเฉิน ผู้ป่วย จะได้รับการบริการทางการแพทย์อย่างดีและมีคุณภาพ จากโรงพยาบาลในเครือ BDMS ที่มีบุคคลกร และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งพร้อมให้บริการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยตามมาตรฐานสากล
สำหรับเครือข่ายรักษาผู้ป่วยอุบัติเหตุ (BDMS Trauma Care Network) ในแต่ละโรงพยาบาล จะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในทุกด้าน ประจำการ ณ โรงพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การวินิจฉัยผู้ป่วยฉุกเฉินในขั้นแรกรับร่วมกัน ซึ่งจะทำให้การดูแลผู้ป่วยในเบื้องต้นเป็นไปอย่างถูกต้องแม่นยำ ทั้งนี้โรงพยาบาล 9 แห่งที่ยกระดับให้เป็นศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทาง (Center Of Excellence : COE) ด้านอุบัติเหตุและออร์โธปิดิกส์ ประกอบด้วยได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ ถ. เพชรบุรี โรงพยาบาลสมิติเวช ถ. สุขุมวิท โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ โรงพยาบาลพญาไท 2 โรงพยาบาลกรุงเทพ เชียงใหม่ โรงพยาบาลกรุงเทพ อุดรธานี โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพ พัทยา และ โรงพยาบาล รอยัล พนมเปญ ประเทศกัมพูชา
