วันนี้ (1 ส.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวเน็ตแห่แชร์ภาพเรือแอร์บัสขนาดใหญ่ ที่พ่วงรถลากจูง ถูกจอดไว้ลักษณะเตรียมความพร้อม และเทเลอร์ลากบรรทุกเรือท้องแบนจำนวน 2 ลำ ที่จอดไว้ใกล้กับโรงจอดรถในศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 7 สกลนคร ซึ่งมีผู้โพสต์ว่าพบเรือเหล่านี้จอดทิ้งไว้ แทนที่จะนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุน้ำท่วมขณะนี้
นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแจ้งว่า เรือบางชนิดต้องใช้คนที่มีความชำนาญในการขับขี่ และต้องใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดความเสียหายได้ ซึ่งบางลำก็เพิ่งกลับจากปฏิบัติภารกิจช่วยน้ำท่วม โดยยืนยันว่านำเรือสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่อง ไม่ได้จอดทิ้งไว้เฉยๆ
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ซึ่งรองรับน้ำจากจังหวัดสกลนคร กระแสน้ำในแม่น้ำก่ำไหลเชี่ยวกัดเซาะคอสะพานจนเกิดทรุดตัว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ปิดการจราจรเพื่อป้องกันอันตราย และอพยพชาวบ้านขึ้นที่สูง ส่วนบริเวณตลาดสด อำเภอนาแกถูกน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและร้านค้าจำนวนมาก
ที่จังหวัดอุดรธานี ลำน้ำสงครามที่ไหลผ่านพื้นที่อำเภอบ้านดุง ระดับน้ำสูงเอ่อท่วมรอบศาลเจ้าปู่ศรีสุทโธ คำชะโนด ระดับน้ำสูงกว่า 80 เซนติเมตร รถไม่สามารถผ่านได้ จึงต้องประกาศปิดคำชะโนดชั่วคราว
สถานการณ์น้ำท่วมไม่เพียงแต่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนเท่านั้น ยังทำให้ลิงแสมสีทองกว่า 800 ตัวในอุทยานโกสัมพี จังหวัดมหาสารคาม ขาดแคลนอาหารในธรรมชาติ หลังน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร จนฝูงลิงต้องอพยพมาอยู่ตามถนน บนต้นไม้ กิ่งไม้ กำแพงวัด เดินตามถนน และโรงเรียน ขณะที่ระดับน้ำที่ท่วมในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ลดลงเป็นปกติแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวังพื้นที่ราบลุ่ม 5 อำเภอ คือ อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.ยางตลาด อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย และอ.ร่องคำ
พื้นที่ภาคกลาง หลายจังหวัดยังคงเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ล่าสุด นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 จังหวัดชัยนาท บอกว่าปริมาณน้ำที่ท่วมขังในภาคเหนือเริ่มไหลงลงลุ่มน้ำภาคกลางแล้ว คาดว่าตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 5 สิงหาคมจะมีฝน แต่ไม่มากนัก ทำให้ต้องวางแผนระบายน้ำออกท้ายเขื่อนเจ้าพระยาไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ยืนยันว่าน้ำที่ระบายออกจากเขื่อนไม่กระทบกับพื้นที่ท้ายเขื่อน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะมีระดับน้ำสูงขึ้นไม่เกิน 20 เซนติเมตร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก นอกจากนี้ ทางกรมชลประทานยังติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 7 จุด เพื่อรองรับเหตุสุดวิสัยหากมีฝนตก หรือรอรองรับน้ำหลากในช่วงปลายเดือนหน้า
