“ประวิตร” ลั่น กองทัพไม่ช่วย ทหารและตร. รีดเงินนักลงทุนต่างชาติ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการสายตรวจพิเศษ191 สนธิกำลังตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจนครบาลโคกคราม จับกุมแก๊งรีดทรัพย์ที่มีทหาร ตำรวจ ร่วมขบวนการได้ โดยพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ คือการใช้อำนาจรัฐข่มขู่และอ้างว่าสามารถวิ่งเต้นช่วยเหลือนักลงทุนชาวต่างชาติที่มีเอกสารแสดงตนไม่ถูกต้องได้

วันนี้ (11 ส.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนคุมตัว พันตำรวจโทณัฐกฤษต์ ยุทยา พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. ชุดสีฟ้า พร้อมนาย โกเท็ก ฉ่วน ชาวสิงคโปร์ และสมาชิกอีก 1 คน ขึ้นรถไปฝากขังที่ศาลอาญา ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และบุกรุกเคหะสถาน หลังร่วมกับสมาชิกรวม 10 คน มีทั้งทหาร และตำรวจ กรรโชกทรัพย์ นายทรงศักดิ์ วิโรจน์ถาวรกิจและนายสุรชัย แซ่ย่าง จำนวน 2 ล้านบาทไปเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม

โดยเหตุการณ์ดังกล่าว นายทรงศักดิ์ เล่าว่า วันเกิดเหตุกลุ่มผู้ต้องหาขอพบนายสุรชัย แซ่ย่าง โดยไม่มีหมายค้น แต่เนื่องจากเห็นว่าเป็นเจ้าหน้ารัฐ และอ้างเหตุผลตรวจค้นว่าเป็นเรื่องความมั่นคงจึงไม่อาจปฏิเสธ จากนั้นผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้คุมตัวนายทรงศักดิ์และนายสุรชัย โดยทำลายฮาร์ดดิสกล้องวงจรปิดทั้งหมด ก่อนจะนำตัวทั้ง 2 คน เดินทางไปย่านดอนเมือง และอ้างสาเหตุการจับตัวว่า ใช้เอกสารทะเบียนราษฎรและบัตรประชาชนปลอม จึงเรียกเงิน 20 ล้าน ก่อนจะต่อรองเหลือ 2 ล้านบาท เนื่องจากมีเงินไม่เพียงพอ

นายทรงศักดิ์ วิโรจน์ถาวร ยังเปิดเผยว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นที่รู้จักในหมู่นักธุรกิจ เคยไปไถทรัพย์กับนักธุรกิจนวดแผนไทย ที่จังหวัดพัทยา 10 ล้านบาท และนักธุรกิจในพื้นที่กรุงเทพ อีก 10 ล้านบาท และสาเหตุที่ยอมจ่ายเงินครั้งนี้คือ เพื่อให้มีหลักฐานเอาผิด

คดีนี้ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ 10 คน ตำรวจตามจับกุมได้ 8 คน และอยู่ระหว่างหลบหนีอีก 2 คน โดยพบว่า ในจำนวนนี้มี ทหารเรือ 4 คน และทหารยศพลตรี 1 คน รวมถึงพันตำรวจโทณัฐกฤษต์ ทำหน้าที่คอยนำข้อมูลไปหลอกนักลงทุนชาวต่างชาติ โดยมีนาย โกเท็ก ฉ่วน เป็นล่ามคอยประสานงาน เบื้องต้นคาดว่ามูลค่าความเสียหายมากกว่า 50 ล้านบาท โดยชั้นพนักงานสอบสวนมีผู้ต้องหาที่เป็นทหารได้รับการประกันไป 5 คน เนื่องจากยื่นประกันและมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง

นอกจากนี้ พันตำรวจเอกศรายุทธ จุณณวัตต์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลโคกคราม เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายที่ถูกแก๊งนี้หลอกลวงอย่างน้อย 2 คดี คดีแรกอยู่ที่ สน.วังทองหลาง แก๊งนี้หลอกช่วยวิ่งเต้นเรื่องเอกสาร ให้ชาวต่างชาติ โดยเรียกเงิน 4 ล้านบาท แต่สุดท้ายถูกจับและผลักดันออกนอกประเทศ เหตุเกิดเมื่อ 2558 อีกคดีหลอกว่าจะช่วยเรื่องออกสัญชาติไทยให้สาวชาวจีน ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง เรียกเงิน 7 แสน 5 หมื่นบาท เหตุเกิดเมื่อ 2559

ด้าน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มองว่า คดีนี้เป็นความผิดส่วนตัว หากหลักฐานชัดเจนก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย และกองทัพไทยจะไม่ให้ความช่วยเหลือ

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ