วันนี้ (15 ส.ค.60) นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มหรือแวตที่ 7% ซึ่งจะสิ้นสุดระยะในวันที่ 30 กันยายนนี้ ออกไปอีก 1 ปี เพื่อช่วยดูแลค่าครองชีพประชาชน และสร้างความเชื่อมั่นเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะหากมีการปรับเพิ่มภาษีแวตในช่วงนี้จะกระทบการบริโภค อาจทำให้เศรษฐกิจขยายตัวชะงักได้
"การคงแวตต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2561 เพื่อกระตุ้นกลไกทางเศรษฐกิจ และช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนให้สามารถมีกำลังซื้อในการจับจ่ายสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจให้กับภาคเอกชน และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมขนาดใหญ่สามารถดำเนินการไปได้อย่างต่อเนื่อง อันจะทำให้การบริโภคและการลงทุนของประเทศมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมั่นคงต่อไป โดยการคงอัตราแวตครั้งนี้ แม้จะทำให้ภาครัฐสูญเสียการจัดเก็บรายได้ 232,600 ล้านบาท แต่ก็คุ้มค่าและส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม"
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีปัญหาเรื่องรายได้ จึงยังไม่มีความจำเป็นในการปรับขึ้นภาษีแวตในขณะนี้ รวมถึงสัดส่วนหนี้สาธารณะของประเทศก็อยู่ในระดับต่ำ 42% ของจีดีพี จากกรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดไว้ไม่เกิน 60% ของ จีดีพี ทำให้มีช่องทางการกู้เงินเพื่อมาลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่รัฐบาลพยายามเร่งลงทุนกระตุ้นและวางรากฐานทางเศรษฐกิจอีกมาก