ระวัง ! เด็กปิดเทอมเสี่ยง “จมน้ำ” เสียชีวิต


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรมควบคุมโรคเตือนผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานในช่วงปิดเทอม หลังข้อมูลปีที่แล้วเดือน ต.ค. พบเด็กเสียชีวิตสูงสุดถึง 78 ราย ขณะที่เดือน ต.ค. ปีนี้ ผ่านไปเพียง 15 วัน มีเด็กจมน้ำ 8 เหตุการณ์ และเสียชีวิตถึง 11 ราย ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากเด็กเล่นน้ำกับกลุ่มเพื่อน

จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุข ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2550 -2559 เฉพาะเดือนตุลาคมเดือนเดียว มีเด็กจมน้ำเสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 101 คน ข้อมูลปี 2559 ที่ผ่านมา พบเด็กไทยจมน้ำเสียชีวิต 699 ราย เป็นเด็กเพศชายมากกว่าเพศหญิงเกือบ 3 เท่าตัว กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี  รองลงมา 5-9 ปี และ 10-14 ปี ซึ่งเดือนที่มีเด็กจมน้ำเสียชีวิตมากที่สุด คือตุลาคม 78 ราย รองลงมาคือเมษายน 75 ราย และมีนาคม 70 ราย และการจมน้ำยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของเด็กไทย อายุต่ำกว่า 15 ปี

ขณะที่ข้อมูลเบื้องต้นของสำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค ตั้งแต่เริ่มปิดเทอม ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.-8 ต.ค.60 เพียง 15 วัน พบว่ามีเหตุการณ์เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำ 8 เหตุการณ์ เสียชีวิตถึง 11 ราย โดยพบว่ามีเด็กจมน้ำเสียชีวิตพร้อมกันทีเดียว 2 ราย ถึง 4 เหตุการณ์ ส่วนกลุ่มอายุที่เสียชีวิตสูงสุด คือ 10-14 ปี (7 ราย) อายุ 5-9 ปี (3 ราย) และอายุต่ำกว่า 5 ปี (1 ราย) ส่วนสาเหตุของการตกน้ำเสียชีวิตส่วนใหญ่ คือ เด็กเล่นน้ำกับกลุ่มเพื่อน รองลงมาคือพลัดตกน้ำ จมน้ำ แหล่งน้ำที่มีเด็กจมน้ำมากที่สุด คือ คลองชลประทาน และฝายเก็บน้ำ  ทั้งนี้ จำนวนเหตุการณ์และผู้เสียชีวิตดังกล่าวเป็นการเฝ้าระวังข่าวจากสื่อต่างๆ เท่านั้น ซึ่งอาจมีหลายเหตุการณ์ที่ไม่ได้เป็นข่าวและจำนวนผู้เสียชีวิตอาจสูงกว่านี้ถึง 3 เท่า


ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมของโรงเรียนต่างๆ เด็กจะอยู่บ้านและรวมกลุ่มกับเพื่อนๆไปเล่นตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งผู้ปกครองต้องคอยสังเกตและดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการลงเล่นน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุทำให้เด็กจมน้ำเสียชีวิตได้ ประกอบกับช่วงนี้ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลำคลอง สระน้ำ มีปริมาณน้ำมากกว่าปกติ ไหลเชี่ยวแรงและมีระดับความลึกมาก ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการจมน้ำมากขึ้น

 


สำหรับคำแนะนำเพื่อความปลอดภัยจากการจมน้ำในช่วงหน้าฝนและช่วงปิดเทอม อันดับแรก ผู้ปกครองควรสอนให้เด็กรู้จักแหล่งน้ำเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนแหล่งน้ำที่เด็กคุ้นเคยอาจมีระดับน้ำที่เปลี่ยนไปจากเดิม  ส่วนชุมชนควรสำรวจแหล่งน้ำเสี่ยงและติดป้ายเตือนพร้อมติดตั้งอุปกรณ์การช่วยคนตกน้ำที่หาได้ง่ายในชุมชน  ไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเล่นน้ำหรือยืนใกล้แหล่งน้ำ ขอบบ่อ  พร้อมทั้งต้องสอนให้เด็กมีทักษะการเอาชีวิตรอดและวิธีการช่วยเหลือคนตกน้ำ จมน้ำ ที่ถูกต้อง  และในกลุ่มเด็กเล็ก ผู้ปกครองควรหาพื้นที่เล่นที่ปลอดภัยหรือนำเด็กไว้ในคอกกั้นเด็กขณะทำกิจกรรมเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ

        


อธิบดีกรมควบคุมโรค แนะนำว่า สิ่งที่ยึดไว้ใช้ยามฉุกเฉิน คือ “ตะโกน” เรียกให้ผู้ใหญ่มาช่วยและโทรแจ้งทีมแพทย์กู้ชีพ 1669  จากนั้นโยนอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวเพื่อช่วยคนตกน้ำเกาะจับพยุงตัว เช่น เชือก ถังแกลลอนพลาสติกเปล่า  หรือวัสดุที่ลอยน้ำได้โดยโยนครั้งละหลายๆ ชิ้น  และยื่นอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ตัวให้คนตกน้ำจับ เช่น ไม้ เสื้อ ผ้าขาวม้า ให้คนตกน้ำจับและดึงขึ้นมาจากน้ำ 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ