วันนี้ (9 ต.ค.60) ภาพถ่ายดาวเทียมอากาศที่ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของกรมอุตุนิยมวิทยาแสดงให้เห็นว่ามีพายุดีเปรสชั่นกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศเวียดนาม และมีหย่อมความกดอากาศต่ำอีกจุดที่กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นใกล้กับประเทศฟิลิปปินส์ ขณะที่ นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้พายุดีเปรสชั่นที่เวียดนาม จะแปรสภาพเป็นพายุโซนร้อน ส่วนหย่อมความกดอากาศที่ฟิลิปปินส์มีแนวโน้มเพิ่มกำลังเป็นพายุดีเปรสชั่น ซึ่งพายุทั้ง 2 ลูกจะส่งผลกระทบโดยตรงกับประเทศไทย ประกอบกับในช่วงนี้อากาศเริ่มเย็น และมีหย่อมความกดอากาศต่ำพัดผ่านในหลายจุด นั่นหมายความว่า ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคอีสาน ส่วนภาคกลางก็จะได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำและรับน้ำจากภาคเหนือที่สำคัญยังมีตัวแปรในเวลานี้คือ ภาวะน้ำทะเลหนุนสูงประกอบด้วย ก็จะยิ่งทำให้การระบายน้ำทำได้ลำบากขึ้น
ด้านเว็บไซต์กรมชลประทาน เผยแพร่ข้อมูลภาพรวมน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ทั่วประเทศ พบว่าทั้งพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ส่วนใหญ่ถูกแจ้งเตือนว่ามีปริมาณน้ำสูงกว่าร้อยละ 80 ของความจุเขื่อน โดยขณะนี้ปริมาณน้ำในทุกเขื่อนของภาคเหนือมีปริมาณน้ำรวมกัน 18,063 ล้านลูกบากศ์เมตร จากความจุทั้งหมด 24,715 ล้านลูกบากศ์เมตร ส่วนภาคอีสาน มีปริมาณน้ำรวมกัน 7,361 ล้านลูกบากศ์เมตร จากความจุทั้งหมด 8,368 ล้านลูกบากศ์เมตร และภาคกลาง มีปริมาณน้ำรวมกัน 1,243 ล้านลูกบากศ์เมตร จากความจุทั้งหมด 1,360 ล้านลูกบากศ์เมตร
สำหรับจุดที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด คือจุดที่อยู่ใกล้กับเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนอุบลรัตน์ และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เนื่องจากทั้ง 3 เขื่อนขณะนี้มีปริมาณน้ำสูง
ด้านนายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง ทั้งที่ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า จุดที่จะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากกรณีพายุพัดเข้าปกคลุมประเทศเวียดนาม คือ ภาคเหนือและอีสาน เพราะว่า ภาคกลางเป็นจุดรับน้ำก่อนที่จะระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา แต่ในขณะนี้น้ำทะเลยังหนุนสูงทำให้การระบายน้ำยากลำบาก เพราะแม้กรมชลประทานจะเร่งระบายน้ำลงสู่แก้มลิงเพื่อช่วยเหลือ แต่ขณะนี้หลายแก้มลิงน้ำเต็มพื้นที่เกือบทั้งหมดแล้ว ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าพายุทั้ง 2 ลูกนี้จะทำให้น้ำท่วมหนักเหมือนเดือนกรกฎาคมหรือไม่ นายทองเปลว ยืนยัน ว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น เพราะ พายุทั้ง 2 ลูกไม่ได้เดินทางเข้ามาพร้อมกัน