พรรคการเมืองญี่ปุ่นเปิดฉากหาเสียงเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




พรรคการเมืองในญี่ปุ่นเริ่มต้นเดินสายหาเสียงอย่างเป็นทางการ สำหรับการเลือกตั้งก่อนกำหนดที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคม นี้ ซึ่งจะชี้ชะตาว่านายชินโซ อาเบะ จะนั่งเก้าอี้นายกฯญี่ปุ่นได้เป็นสมัยที่ 3 หรือไม่

วันนี้ (10 ต.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาผู้สมัครจากพรรคการเมืองต่างๆในประเทศญี่ปุ่น เริ่มออกเดินสายหาเสียงอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก โดยพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ลงพื้นที่ไปหาเสียงกันที่จังหวัดฟูกูชิมะ ทางตอนเหนือของประเทศ โดยเลือกใช้ทุ่งนาที่มีรวงข้าวเหลืองอร่ามเต็มทุ่งเป็นที่เปิดปราศรัยหาเสียง นายอาเบะยืนยันว่าประสบการณ์การทำงานของเขา จะเป็นประโยชน์ในการแก้วิกฤตของประเทศ ทั้งเรื่องภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ รวมถึงปัญหาแนวโน้มประชากรในประเทศ ทั้งการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และอัตราการเกิดที่ลดต่ำลง

ฝั่งพรรคคู่แข่งน้องใหม่มาแรงอย่างพรรค “คิโบโนะโต” หรือ “พรรคความหวัง” ของนางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่ถึงเดือน แต่กลับได้รับความสนใจมากที่สุดในขณะนี้ เลือกหาเสียงในย่านใจกลางกรุงโตเกียว ที่มีผู้คนพลุกพล่าน โดยนางโคอิเกะเปิดปราศรัยด้วยการโจมตีการบริหารงานที่ผ่านๆมาของนายอาเบะ ซึ่งทำให้ประชาชนเริ่มหมดความไว้วางใจ สำหรับการเลือกตั้งก่อนกำหนดในวันที่ 22 ตุลาคม นี้ คาดว่าจะเป็นการชิงชัยกันระหว่าง 2 พรรคหลัก คือ พรรค LDP ของนายอาเบะ และพรรคความหวังของนางโคอิเกะ เพื่อชิงเก้าอี้ ส.ส. จำนวน 456 ที่นั่ง โดยพรรคนายอาเบะส่งผู้สมัครทั้งสิ้น 292 คน ส่วนพรรคของนางโคอิเกะ ซึ่งยังไม่ประกาศชัดเจนว่าจะสนับสนุนให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี ส่งผู้สมัครทั้งสิ้น 201 คน

โดยก่อนหน้านี้ หัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆ ก็เพิ่งจะขึ้นเวทีประชันวิสัยทัศน์กันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่าที่ถูกแสงไฟส่องมากที่สุดก็คือ นายอาเบะ กับ นางโคอิเกะ โดยการดีเบตในครั้งนั้น ก็ได้แสดงให้เห็นจุดยืนที่แตกต่างกันเรื่องนโยบายของสองพรรคการเมืองตัวเต็ง โดยมีรายละเอียด 3 หัวข้อหลัก ซึ่งก็คือ ความมั่นคง พลังงาน และเศรษฐกิจ และคาดว่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาตลอดระยะเวลา 12 วัน ของการหาเสียงด้วยเช่นกัน

นายอาเบะ อธิบายว่าพรรคของเขาจะรื้อรัฐธรรมนูญญี่ปุ่น โดยจะให้ประชาชนมีอำนาจตัดสินใจสถานภาพของกองกำลังป้องกันตนเองของประเทศ (SDF) ภายใต้มาตรา 9 การแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องสถานภาพของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นเป็นผลงานหลักของอาเบะ ซึ่งเปิดทางให้กองกำลังป้องกันตนเอง สามารถไปดำเนินภารกิจช่วยเหลือต่างแดนได้ ขณะเดียวกันก็ถูกวิจารณ์ว่าไปเปิดทางให้ส่งกองกำลังของญี่ปุ่นสามารถไปร่วมรบช่วยพันธมิตรในต่างประเทศได้ ในประเด็นเรื่องกองทัพ โคอิเคะ ไม่ได้ลงรายละเอียดชัดเจน นอกจากตั้งข้อสังเกตว่า การให้ประชาชนกำหนดบทบาทของกองกำลังป้องกันตนเอง จะทำให้เกิดความทับซ้อนกันระหว่างกระทรวงกลาโหม และกองกำลัง

ส่วนเรื่องพลังงานนิวเคลียร์ นายอาเบะ สนับสนุนการใช้พลังงานนิวเคลียร์ต่อไป โดยพรรค LDP ตั้งเป้าว่าจะใช้พลังงานนิวเคลียร์คิดเป็น 22% ของการผลิตไฟฟ้าทั่วประเทศ ขณะที่พรรคของโคอิเกะต้องการลดการพึ่งพาพลังงานนิวเคลียร์ ตั้งเป้าว่าจะหยุดใช้พลังงานนิวเคลียร์ภายในช่วงปี 2030

สำหรับนโยบายเศรษฐกิจของพรรคนาย อาเบะ มีชื่อเรียกว่า อาเบะโนมิกส์ ที่เน้นการอัดฉีดเงินเข้าระบบ ซึ่งต่างจากนโยบายเศรษฐกิจของพรรคนางโคอิเกะ ซึ่งเรียกว่า ยูริโนมิกส์ ที่จะเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งใหญ่ของญี่ปุ่น โดยลดการพึ่งพารายจ่ายของรัฐบาลและการอัดฉีดเม็ดเงิน ขณะเดียวกันก็เสนอให้เลื่อนการขึ้นภาษีการบริโภคจาก 8% เป็น 10% ออกไปด้วย 

สำหรับการเลือกตั้งก่อนกำหนดในครั้งนี้ เริ่มจากที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ได้ประกาศยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ เพื่อที่จะขอเสียงสนับสนุนจากประชาชนครั้งใหม่ในการจัดการกับวิกฤติของประเทศ โดยฉวยโอกาสช่วงที่พรรคประชาธิปไตยแห่งญี่ปุ่น ซึ่งเป็นฝ่ายค้านอยู่ในภาวะระส่ำระสาย และคะแนนนิยมของตนเองกระเตื้องขึ้นมา หลังจากตกต่ำลงจากกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเอื้อผลประโยชน์พวกพ้อง ปัจจุบัน พรรคแอลดีพีของนายอาเบะครองเก้าอี้ในสภาผู้แทนฯ 288 ที่นั่ง คิดเป็น 2 ใน 3 โดยเขาระบุว่าจะประกาศชัยชนะหากพรรคของตน และพรรคโคเมอิโตะที่เป็นพันธมิตร สามารถคว้ามาได้อย่างน้อย 233 ที่นั่ง แต่ถ้าหากไม่สามารถคว้าเสียงข้างมากได้ ตนก็พร้อมจะลาออก

แต่หลังจากประกาศยุบสภา คู่ต่อสู้ที่ไม่คาดคิดและอาจทำให้อาเบะต้องพบกับความผิดหวัง ก็ได้ปรากฎตัวขึ้น เมื่อนางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการกรุงโตเกียว ประกาศเปิดตัวพรรคใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมกับระบุว่าจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งทั่วประเทศ ซึ่งทั้งสองฝ่ายนี้มีเป็นนักการเมืองสายอนุรักษ์นิยมทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจล่าสุดเผยให้เห็นว่ากระแสของโคอิเกะกำลังแผ่วลง หลังจากที่ตัวเธอเองปฏิเสธไม่ลงชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อทุ่มเทให้กับการทำงานในฐานะผู้ว่าฯ กรุงโตเกียว

โดยผลสำรวจผู้มีสิทธิเลือกตั้งของหนังสือพิมพ์โยมิอุริ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่า สัดส่วนของผู้ที่บอกว่าจะลงคะแนนให้กับพรรคความหวังของนางโคอิเกะ ลดลงจาก 19 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงที่นายกฯ อาเบะ ประกาศยุบสภา มาอยู่ที่ 13 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ สัดส่วนผู้บอกว่าจะเลือกพรรคแอลดีพีอยู่ที่ 32 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแม้จะว่าลดลงจากการสำรวจครั้งก่อน 2 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ถือว่ายังน้อยกว่าพรรคของนางโคอิเกะ ซึ่งก็ทำให้บรรดานักวิเคราะห์เชื่อว่านายอาเบะจะสามารถคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายได้อีกครั้ง และครองเก้าอี้ผู้นำญี่ปุ่นเป็นสมัยที่ 3 ต่อไป

AFP

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ