สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชกระแสรับสั่งลงวันที่ 10 ตุลาคม 2560 ความว่า “ขอขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่งที่ได้พร้อมกันมาถวายสักการะพระบรมศพฯ อย่างพร้อมเพรียง ด้วยความจงรักภักดี ด้วยน้ำใจบริสุทธิ์งดงาม อีกทั้งพร้อมใจกันบำเพ็ญประโยชน์เป็นจิตอาสาและช่วยเหลืองานพระบรมศพและงานด้านต่างๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถ เป็นการทำดีด้วยหัวใจ เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ ต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
บัดนี้การถวายพระเพลิงพระบรมศพ จะเป็นไปด้วยความสมบูรณ์เรียบร้อย และสมพระเกียรติ เชื่อว่าการทำความดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยความทุ่มเทเสียสละและด้วยความสมัครสมานสามัคคีของประชาชนชาวไทยในครั้งนี้ หากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้ทรงทราบด้วยพระญาณวิถีใดๆ ก็ตาม จะทรงชื่นชมโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง จึงขอขอบใจทุกๆท่านด้วยความซาบซึ้งอย่างที่สุดจากหัวใจด้วยความจริงใจอย่างแท้จริง
โดยตลอดทั้งวัน มีประชาชนนำพวงมาลัย ดอกไม้สด มาถวายสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร บริเวณริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง ไม่ขาดสาย เบื้องต้นกองอำนวยการร่วมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ หรือ กอร. เปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นวันที่ 15 ,21 และ 22 ตุลาคม เนื่องจากต้องซ้อมริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมราชอิสริยยศ
เบื้องต้นกำหนดเส้นทางเข้าออก 2 จุด คือจุดคัดกรองท่าช้าง หน้ามหาวิทยาลัยศิลปากร และจุดคัดกรองสะพานหลังศาลหลักเมือง โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนผ่านจุดคัดกรอง หลังถวายดอกไม้แล้วเสร็จ ไม่อนุญาตให้เข้าไปใกล้พื้นที่สนามหลวง ที่อยู่ระหว่างเร่งก่อสร้างพระเมรุมาศและเตรียมใช้พื้นที่สำหรับประกอบพระราชพิธีฯ
