วันนี้ (8 พ.ย. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวินัย ชิดเชี่ยว กำนันตำบลกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ให้ข้อมูลกับพีพีทีวี เกี่ยวกับเส้นทางการเรียกรับส่วยในจังหวัดภูเก็ต โดยอ้างว่า ขบวนการเรียกรับส่วยเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกในภูเก็ตหลายสิบปี มีข้าราชการหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หาตัวคนผิดยาก เพราะมีมือเก็บส่วยเป็นตัวตายตัวแทน
เมื่อวานนี้พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ออกชี้แจงครั้งแรก หลังถูกเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “สปอร์ตไลท์ ภูเก็ต” กล่าวหาหน่วยงานในสังกัดว่ามีพฤติกรรมเรียกรับส่วย โดยพลตำรวจตรีสุรเชษฐ์อ้างว่า ไม่เกี่ยวข้อง และการตรวจสอบการเรียกรับส่วย เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาระดับสูง
สำหรับธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตที่มีขบวนการเรียกรับส่วยเกี่ยวข้อง พีพีทีวีได้ข้อมูลว่า มีตั้งแต่ส่วยผู้ประกอบการสถานบันเทิง ที่ต้องการเปิดเกินเวลา สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ แรงงานต่างด้าวตามร้านอาหาร และกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด มูลค่ารวมกันเดือนละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
วันเดียวกัน พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รักษาราชการแทนจเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้หัวหน้าจเรตำรวจ ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว เบื้องต้นมีการแนบหลักฐานโพยที่อ้างว่าเป็นจ่ายส่วย แต่ต้องตรวจสอบว่ามีน้ำหนัก พอเป็นหลักฐานในการสืบสวนสอบสวนหรือดำเนินคดีได้หรือไม่ก่อน
นอกจากนี้ พล.ต.อ.สุชาติ บอกด้วยว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริงจะเร่งดำเนินการให้เสร็จเร็ว แต่กำหนดกรอบเวลาไม่ได้ เพราะร้องเรียนมา 2-3 ประเด็น กล่าวหาข้าราชการหลายหน่วยงาน จะเกี่ยวข้องกับนายพลตำรวจตรีก็ไม่หวั่น เพราะมีความผิด ใครที่คิดจะช่วยก็ช่วยได้ยาก จึงไม่หนักใจและหนักใจไม่ได้ เบื้องต้นยอมรับว่ามีการพาดพิง นายตำรวจยศ พล.ต.ต. จริง แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการรับส่วย แต่กล่าวหาว่า เข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องแต่งตั้ง ซื้อขายตำแหน่ง จึงต้องตรวจสอบทุกประเด็น
