วันนี้ (9 พ.ย.60) นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน 2561 ค่าเชื้อเพลิงทุกชนิด ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันเตา และถ่านหิน มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงถึง 15.42 บาทต่อล้านบีทียู ส่งผลให้ค่าเอฟทีในส่วนของเชื้อเพลิงสูงขึ้น 20.25 สตางค์ต่อหน่วย แต่เนื่องจากมีเงินสะสมมาตั้งแต่กลางปี 2560 อยู่จำนวนหนึ่ง จึงนำมาช่วยตรึงราคาค่าเอฟทีในงวดนี้ ไว้ที่ -15.90 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าในงวดเดือนมกราคมถึงเมษายนปีหน้าไม่ปรับขึ้น และเก็บไว้ส่วนหนึ่งไปช่วยพยุงค่าเอฟทีในงวดเดือนพฤษภาคม ถึง สิงหาคม 2561 ไม่ให้สูงขึ้นมากจนเกินไป ซึ่ง กกพ.เชื่อว่าน่าจะตรึงราคาค่าไฟฟ้าไว้เท่าเดิมจนถึงช่วงกลางปีหน้า โดยจะนำเงินสะสมที่เหลือประมาณ 5,000 ล้านบาท มาช่วยพยุงเพิ่มเติม แต่ยังต้องติดตามค่าเงินบาท ซึ่งหากแข็งค่าขึ้นก็จะสามารถช่วยลดค่าเอฟทีได้
ทั้งนี้ จากการตรึงค่าเอฟทีเรียกเก็บงวดเดือนมกราคม ถึงเมษายน 2561 ที่ -15.90 สตางค์ต่อหน่วย จะมีผลทำให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยผู้ใช้ไฟฟ้าทุกประเภทอยู่ที่ 3.5966 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)