ขสมก.เล็งรื้อสัญญาติด “แคชบ็อกซ์” รถเมล์ หลังพบอาจใช้งานไม่ได้


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ขสมก.เล็งรื้อสัญญาติดตั้งเครื่องชำระค่าโดยสารหยอดเหรียญอัตโนมัติ หลังพบว่าไม่สามารถใช้ได้จริง ขณะที่การทดสอบอี-ทิคเก็ตรอบแรกใช้ไม่ได้ 35 คันจาก 100 คัน

วันนี้ (2 ธ.ค. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ หรืออี-ทิคเก็ต ระยะเวลา 5 ปี วงเงิน 1,665 ล้านบาทว่า กลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงาน โดยบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) ได้ติดตั้งเครื่องอี-ทิคเก็ต บนรถเมล์ ขสมก.ไปแล้ว กว่า 700 คัน แต่การดำเนินงานภาพรวมยังคงไม่ราบรื่น เนื่องจากเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขสมก.ได้ทดสอบระบบอี-ทิคเก็ต บนรถเมล์ล็อตแรกจำนวน 100 คันแรก พบว่าใช้งานได้ 65 คัน ส่วนที่เหลืออีก 35 คันเครื่องยังไม่เสถียร อ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้บ้างไม่ได้บ้าง

ดังนั้น ขสมก.จึงยังไม่ตรวจรับและจะไม่ตรวจรับจนกว่าระบบอี-ทิคเก็ต บนรถเมล์ทั้ง 100 คันจะเสถียร ซึ่งการส่งมอบระบบอี-ทิคเก็ตล็อตแรกล่าช้ากว่า สัญญาที่กำหนดไว้ในวันที่ 13 ตุลาคม 2560 ด้านการตรวจรับล็อตที่ 2 อีก 700 คัน รวมเป็น 800 คัน จะดำเนินการในกลางเดือนธันวาคมนี้

สำหรับเครื่องชำระค่าโดยสารแบบหยอดเหรียญอัตโนมัติ หรือ แคชบ๊อกซ์ ที่ต้องติดตั้งบนรถเมล์ 2,600 คัน พร้อมกับอี-ทิคเก็ตนั้น ตอนนี้ได้ติดตั้งไปแล้วประมาณ 200 คันและยังไม่ได้เริ่มทดสอบระบบ แต่เท่าที่ดูพบว่าไม่สามารถใช้งานได้จริงและอาจจะมีปัญหา ขสมก.จึงอยู่ระหว่างศึกษาว่าจะสามารถชะลอหรือยกเลิกสัญญาการติดตั้งแคชบ๊อกซ์ได้หรือไม่ ถ้าหากระบบมีปัญหาหรือเอกชนไม่สามารถดำเนินการได้ตามสัญญา เพื่อจำกัดไม่ให้ความเสียหายขยายวงมากขึ้น โดย ขสมก.ต้องพิจารณาว่าสัญญาติดตั้งอี-ทิคเก็ตและแคชบ๊อกซ์ผูกพันกันอย่างไร และต้องการจ่ายเงินเฉพาะส่วนที่สามารถใช้การได้เท่านั้น

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ