วันนี้ (3 ธ.ค.60) ภาพมุมสูงที่ทีมข่าวพีพีทีวีบันทึกไว้ในช่วงสายของวันนี้ หรือหลังจากที่นายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือหมอแสง เปิดให้ผู้ป่วยรับยาไปแล้วนานกว่า 10 ชั่วโมง เห็นชัดเจนว่าประชาชนที่มารอตั้งแต่ก่อนเที่ยงคืน ยังคงตกค้างอยู่เต็มถนนหน้าบ้านของหมอแสง จนทีมงานต้องปรับแผน ลดขั้นตอน เพื่อแจกยาให้เร็วขึ้น
ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย ให้ข้อมูลว่า มาขอรับยาของหมอแสงนานกว่า 2 ปี ควบคู่กับการรักษากับแพทย์แผนปัจจุบัน เธอให้ความเห็นไม่แตกต่างจากผู้ป่วยรายอื่นที่เดินทางมารับยาว่า พอกินยาของหมอแสงแล้ว ผลตรวจเลือดออกมาในทิศทางที่ดีขึ้น จึงหวังว่ายาของหมอแสงจะเป็นทางเลือกในการรักษาอีกทางหนึ่ง แม้จะยังไม่มีผลศึกษาอย่างเป็นทางการ รับรองว่า ยาของหมอแสงสามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้จริงหรือไม่
จากการสอบถามพบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย และบางส่วนร่างกายไม่ตอบสนองต่อการทำคีโม หรือ การรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน จึงตัดสินใจมารับยากับหมอแสง สอดคล้องกับข้อมูลของทีมวิจัยจากสถาบันการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่เริ่มสุ่มเก็บตัวอย่างผู้ป่วยประมาณ 200 คน พบว่ากว่าครึ่ง ไม่ได้รักษาควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบัน เพราะรักษาจนเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว หรือกลัวผลข้างเคียงจากการทำคีโมและติดปัญหาเรื่องภาระค่าใช้จ่าย
นอกจากการเก็บข้อมูลผู้ป่วยแล้ว ทีมวิจัยยังได้ไปสุ่มเก็บตัวอย่างยาสมุนไพรของหมอแสง ที่แจกจ่ายให้กับชาวบ้านไปตรวจด้วย โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ยานี้ปลอดภัยหรือไม่ และมีฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็งหรือไม่อย่างไร หากผลออกมาในทางบวก ก็อาจจะนำไปสู่การผลิตยาต่อไป