สถานเอคอัคราชทูตไทยในกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ออกแถลงการณ์ขอให้คนไทยในอิสราเอล โดยเฉพาะในนครเยรูซาเลมและบริเวณใกล้เคียง หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่สาธารณะที่มีผู้คุมชุมนุมหนาแน่นและติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 6 ธ.ค ที่ผ่านมา ชาวปาเลสไตน์ ในนครเยรูซาเล็ม และอีกหลายเมืองสำคัญได้ออกมาประท้วงการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศรับรองนครเยรูซาเลม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล โดยเมื่อวานนี้ ผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์ได้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของอิสราเอลที่สลายการชุมนุมจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 30 คน
ส่วนที่ประเทศจอร์แดน ประชาชนหลายร้อยคนรวมตัวกันที่หน้าสถานเอกอัคราชทูต สหรัฐฯ ในกรุงอัมมัน เพื่อประท้วงกรณีที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศรับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของประเทศอิสราเอล โดยผู้ชุมนุมได้ตะโกนประณามสหรัฐฯว่าเป็นแกนนำแห่งความชั่วร้าย พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการปิดสถานทูตและขับไล่กองทัพสหรัฐฯ ออกจากแผ่นดินจอร์แดน
ขณะที่ สถานเอกอัคราชทูตสหรัฐฯ ในกรุงอัมมัน ได้ปิดทำการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยและได้ออกแถลงการณ์เตือนพลเมืองสหรัฐฯ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นเจ้าหน้าที่ในจอร์แดนให้ระมัดระวังการเดินทาง รวมทั้งติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวต่อต้านสหรัฐฯ จากกรณีการรับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล