รักษาการผู้อำนวยการ ขสมก.ระบุว่าการเปิดประมูลรถเมล์ เอ็นจีวี 489 คัน วงเงินกว่า 1,784 ล้านบาท ราคากลางเฉลี่ยคันละ 3,650,000 บาท ถือเป็นราคาที่สมเหตุสมผล ซึ่ง ขสมก. สอบถามราคาจากผู้ผลิตโดยตรง และมั่นใจว่าจะมีผู้ที่ชนะการประมูล แต่หากไม่มีผู้ยื่นซอง ขสมก.ก็พร้อมที่จะยกเลิกการประมูล
นางปราณี บอกอีกว่า หากไม่มีผู้ชนะการประมูลจริง ก็มีความเป็นไปได้ที่จะจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีจากประเทศใดประเทศหนึ่งโดยตรง ซึ่งกระทรวงคมนาคมต้องเป็นผู้เริ่มต้นดำเนินการ ขณะเดียวกันยอมรับ ว่ารถเมล์ใหม่ อาจไม่ช่วยให้ ขสมก.มีรายได้เพิ่มขึ้น เพียงแต่รถใหม่จะช่วยลดต้นทุนด้านเชื้อเพลิงได้
ส่วนการเพิ่มขั้นตอนการประมูลด้วยการเซ็นข้อตกลงคุณธรรมจะไม่ทำให้โครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีล่าช้า
วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะเปิดให้ซื้อซองเพื่อร่วมประมูลรถเมล์เอ็นจีวีล็อตแรก 489 คันจากทั้งหมด 3,183 คัน หลังจากนั้น วันที่ 6 มีนาคม จะเปิดให้เอกชนยื่นเอกสาร เสนอราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ 23 มี.ค.2558 หากได้ผู้ชนะก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เบื้องต้นคาดว่าจะทำสัญญาได้เดือนเมษายน และ ส่งมอบรถภายใน 90 นับถัดจากวันลงนามสัญญา หรือประมาณเดือนกรกฎาคม
สำหรับ บริษัทที่ซื้อซองประกวดราคารถเมล์เอ็นจีวีขณะนี้มีจำนวน 12 ราย ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติไทย และ บริษัทร่วมทุนต่างประเทศ