วันนี้ (3 มี.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ท่าเทียบเรือที่ถูกสร้างขึ้นบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองทุ่งมะพร้าวจ. พังงา เพื่อรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่มีการื้อทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยที่ไม่มีการขออนุญาต จากการตรวจสอบชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร และตำรวจท่องเที่ยว พบว่า เบื้องต้นจากการแปรภาพถ่าย ท่าเทียบเรือทั้ง 4 จุด ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนทุกแปลงโดยไม่พบการขออนุญาต ซึ่งถือเป็นการเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้น หากเจ้าของบริษัทไม่สามารถนำเอกสารสิทธิของที่ดินมา เจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ,ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ,มาตรา 9 ประมวลกฎหมายที่ดิน ,พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 ส่วนสะพานไม้ที่ยื่นออกไปเป็นท่าเทียบเรือ ซึ่งถือเป็นสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ การตรวจสอบเบื้องต้นไม่ได้มีการขออนุญาตการก่อสร้างจากท้องถิ่น รวมไปถึง การสร้างอาคาร ก็ยังไม่ไม่มีการขออนุญาตเช่นกัน
ขณะที่ นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เปิดเผยว่า สาเหตุของการบุกรุกพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ส่วนหนึ่ง คือ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว มากกว่าประโยชน์ส่วนรวม หลังจากนี้จะต้องบูรณาการกับหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องช่วยกันในการตรวจสอบและดูแลให้ผู้ประกอบการที่ยังคงกระทำความผิดได้ดำเนินการตามกฎหมายให้ถูกต้อง
สำหรับจังหวัดพังงา เคยมีนโยบายไม่ให้ มีทัวร์ศูนย์เหรียญและทัวร์คุณภาพต่ำที่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ด้วยการตรวจสอบผู้ที่กระทำความผิดทางกฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่ ทางจังหวัดพังงา จะมีหน้าที่คอยตรวจตราการกระทำผิดของผู้ประกอบการ