หลังจากใช้เวลาในการตรวจสอบมานานหลายปี ในที่สุดทีมนักวิทยาศาสตร์จากซิลิอุส ก็ได้ข้อสรุปว่า ซากมัมมี่ที่มีขนาดเพียง 6 นิ้ว เป็นมนุษย์จริง เพียงแต่สรีระหลายอย่างที่ผิดปกติไปนั้น น่าจะเกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนในร่างกาย
มัมมี่ตัวนี้ มีพัฒนาการเท่ากับเด็กอายุ 6 ถึง 8 ขวบ แต่ด้วยความผิดปกติ ทำให้มีขนาดตัวที่เล็กมาก นอกจากนี้ยังมีซี่โครงเพียง 10 คู่ แทนที่จะเป็น 11 คู่อย่างมนุษย์ทั่วไป และที่สำคัญคือ กระโหลกศีรษะมีลักษณะเป็นกรวย ก็เป็นผลมาจากการกลายพันธุ์เท่านั้นเอง
มัมมี่จิ๋วรูปร่างแปลกนี้ ถูกค้นพบโดยทีมนักโบราณคดี ที่เข้าไปสำรวจในเหมืองแร่ไนเตรทร้าง ในแคว้น”อตาคามา”(Atacama) ของประเทศชิลี เมื่อปี 2003 ซึ่งในตอนแรกมีการสันนิษฐานไปต่างๆ นาๆ บ้างก็ว่าเป็นซากของสัตว์โบราณ ขณะที่อีกหลายคนบอกว่า เป็นมนุษย์ต่างดาว สำหรับมัมมี่ตัวนี้มีชื่อว่าอตา (Ata) ตามพื้นที่ที่ค้นพบ แต่หายสาบสูญไปนานหลายปี ก่อนจะพบว่า มันตกอยู่ในกรรมสิทธิ์ของนักสะสมชาวสเปน และมาถึงมือนักวิทยาศาสตร์ในที่สุด