ตร.เร่งล่าตัว “พระสงฆ์” บังคับ “สาวชัยภูมิ”ดื่มน้ำมนต์ จนชักดับ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ตำรวจชัยภูมิ เร่งตาล่าพระสงฆ์หลอกสาวชัยภูมิอายุ 18ปีถูกมนต์ดำบังคับให่ดื่มน้ำมนต์จนชักเสียชีวิต สาธารณสุข เตือนประชาชนอย่าดื่มน้ำแปลกๆ หรือ ดื่มน้ำมนต์ น้ำศักดิ์สิทธิ์ ต้องตรวจสอบก่อนว่ามีอันตรายหรือไม่

กลายเป็นปริศนาสำหรับกรณีเด็กสาววัย 18 ปี ในจ.ชัยภูมิ ที่ถูกพระสงฆ์ต่างถิ่นทักว่าถูกทำไสยศาสตร์ใส่ และบังคับให้ดื่มน้ำมนต์เพื่อรักษา แต่สุดท้ายเด็กชักและเสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจเร่งตามหาพระสงฆ์กลุ่มนี้  

ล่าสุดเมื่อวันที่ (29 มี.ค. 61) นายขาน เชิดจอหอ และนางดวงจิต คณาเขว้า พ่อและแม่ของ น.ส.สุพัก เชิดจอหอ อายุ 18 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสภ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ หลังลูกสาวถูกพระสงฆ์บังคับให้ดื่มน้ำมนต์ จนเสียชีวิต

สำหรับเหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 18 มี.ค. ระหว่างที่น.ส.สุพัก พร้อมพ่อและแม่ไปทำธุระ พบพระสงฆ์ต่างถิ่น 3 รูป ที่จำวัดชั่วคราวในวัดท่าเว่อ  พระรูปดังกล่าวได้ทักน.ส.สุพัก ว่าโดนคุณไสย์มนต์ดำ ถ้าอยากหายต้องกินน้ำมนต์ 2 ถัง หรือ 2 บาตรพระ จึงจะหายเมื่อพูดคุยกันสักระยะหนึ่งก็ยอมให้ น.ส.สุพักเข้าพิธีกินน้ำมนต์  ทั้งที่ใจของพ่อแม่คิดว่าลูกตัวเองไม่ได้เป็นอะไร แต่อีกใจก็คิดว่าพระอาจจะมีกระแสจิตมองเห็นสิ่งเร้นลับ จึงตกลงยินยอม

แต่เมื่อกินไปเพียงแก้วแรกน.ส.สุพัก ก็อาเจียนออกมา แต่พระก็ยังบังคับให้กินต่ออีกหลายแก้ว ทุกแก้วที่ดื่มเข้าไปก็อาเจียนออกมาทุกครั้ง จนสุดท้ายมีอาการชัก มือเท้าเกร็ง ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาล โดยแพทย์ระบุสาเหตุมาจากอาการชักจนสมองขาดออกซิเจน

หลังเกิดเรื่องพยายามติดต่อพระสงฆ์ที่ทำน้ำมนต์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ทราบเพียงว่าพระสงฆ์ทั้งหมดหลบหนีไปแล้ว ครอบครัวจึงเข้าแจ้งความความร้องทุกข์

เบื้องต้นตำรวจนำกำลังเข้าตรวจสอบที่วัดท่าเว่อ พบว่าวัดถูกทิ้งร้าง กุฎิถูกปิดล็อกกุญแจแน่นหนา และไม่พบพระสงฆ์จำวัดอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งระดมกำลังติดตามพระสงฆ์กลุ่มนี้

ขณะที่ นพ. ภาสกร ไชยเศรษฐ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า การจะสรุปสาเหตุว่าเกิดจากน้ำมนต์หรือไม่ คงจะเป็นไปได้ยาก เพราะไม่ได้ส่งศพผ่าพิสูจน์ และยังเผาศพแล้ว แต่ทางหลักการแพทย์คาดว่าผู้ตายอาจตกใจที่ถูกเร่งบังคับให้ดื่มน้ำมนต์เข้าไป แล้วเกิดอาการอาเจียนรุนแรงออกมา จนเกิดความกลัวจนช็อค ทำให้ร่างกายปรับตัว หรือ หายใจไม่ทัน เสียชีวิตฉับพลันได้ 

นอกจากนี้ ทางสาธารณสุขจังหวัด เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อทำพิธีกรรมอะไรแปลก ๆ เพราะการดื่มหรือรับประทานน้ำมนต์ น้ำศักดิ์สิทธิ์ ต้องตรวจสอบก่อนว่ามีเชื้อโรคสะสมอันตรายหรือไม่

สำหรับพระทั้ง 3 รูปยังไม่ทราบว่าเป็นพระจากที่ใด และเป็นพระจริงหรือไม่ เพราะพื้นที่อ.แก้งคร้อ ในอดีตเคยมีบางหมู่บ้านที่ทำอาชีพเป็นพระและชีปลอม เดินสายหากินไปทั่ว แต่ต่อมาทางการได้เข้าจับกุมและพยายามส่งเสริมให้ทำอาชีพ แต่ปัจจุบันยังพบข้อมูลว่าบางครอบครัวยังยึดอาชีพพระปลอมอยู่

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ