วันนี้ (8 มิ.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ทราบปัญหา ขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่ จ.ฉะเชิงเทรา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หารือร่วมกับคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง เมื่อฟังคำชี้แจงแล้ว นายสุรชัย ยอมรับว่า เห็นปัญหาใหญ่คือกรมโรงงานอุตสาหกรรมและ กรมศุลกากร ต่างยึดติดกับกฎหมายของตัวเองมากเกินไป และขาดการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน ทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ จนเกิดช่องว่างที่จะลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้
“จาการฟังคำชี้แจงแต่ละหน่วยงานยังขาดการบูรณาการ และร้อยเรียงไปสู่เป้าหมายเดียวกัน คือการช่วยกันดูแลขยะพิษไม่ให้ขยะพิษเล็ดลอดหรืออาศัยช่องโหว่ของกฎหมายนำสินค้าเข้าสู่ประเทศไทยได้ กรมโรงงานยังยึดติด พรบ.โรงงานอุตมากเกิน ศุลกากรก็ยึดติดกับกฎหมายศุลกากรและยึดติดกับระเบียบวิธีการนำเข้าสินค้าที่ต้องนำเช้ามาเกินไป ทำให้แต่ละฝ่ายไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลย”
เพื่อแก้ปัญหานี้ เบื้องต้น สนช. จะแก้ปัญหาเชิงรุก ใน 2 แนวทาง คือให้คำแนะนำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปปรับปรุงแก้ไขการทำงาน และอีกด้านคือการเร่งรัดรัฐบาลให้นำร่างพระราชบัญญัติจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ถูกเสนอมานานกว่า 10 ปีแล้ว เข้าสู่การพิจารณาของ สนช.โดยเร็ว
นอกจากนี้ รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ระบุว่า ปัญหาใหญ่มากเพราะส่งผลกระทบระยะยาวและเป็นเวลานานถ้ากระบวนการที่บริหารจัดการอยู่ไม่ถูกต้อง และไม่ได้ตรวจสอบเชิงลึกว่าทำเช่นนี้มานานแค่ไหนแล้วปริมาณที่ถูกลักลอบนำเข้ามีปริมาณมากแค่ไหน เพราะแม้แต่หน่วยงานที่เชิญมาชี้แจง ก็ไม่สามารถตอบได้ว่าการบริหารจัดการกากของเสียอย่างไรเพราะไม่มีหน่วยงานที่เข้าไปติดตามตรวจสอบ โดยการพูดคุยวันนี้ทำให้เห็นว่าหน่วยงานไทยยังมีปัญหาที่ต้องปรับปรุงอีกจำนวนมาก ส่วนปัญหาที่เกิดมาแล้วก็คงต้องติดตาม และค่อยๆแก้ไขต่อไป
