ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงผลกระทบของสงครามการค้าสหรัฐอเมริกากับจีนรอบล่าสุด ประเมินว่า จะส่งผลต่อปริมาณการค้าของสินค้า 932 รายการในตลาดโลก โดยทำให้ราคาสินค้ากลุ่มนี้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างน้อย 25% ตามภาษีนำเข้า และทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่แพงขึ้นจากสงครามกีดกันทางการค้า ตลาดการเงินระหว่างประเทศโดยเฉพาะตลาดสินทรัพย์เสี่ยงจะมีมูลค่าลดลง อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น
ผู้บริโภคทั้งในจีนสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกต้องซื้อสินค้าโดยเฉพาะสินค้าไอทีแพงขึ้น คาดว่าสงครามการค้าจะมีความยืดเยื้อ พร้อมประเมินว่า หากจีนเลือกตอบโต้สหรัฐ โดยเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะส่งผลต่อความผันผวนปั่นป่วนในตลาดการเงินโลกไม่น้อย เพราะปัจจุบันจีนเป็นประเทศที่ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรายใหญ่ที่สุดในโลก
สำหรับผลกระทบต่อไทยนั้น ภาคส่งออกไทยคงหลีกเลี่ยงผลกระทบไม่ได้ เพราะไทยมีสินค้าส่งออกที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของทั้ง 2 ประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจไทยอาจเผชิญปัญหาสินค้าบางชนิดไหลทะลักเข้า เนื่องจากประเทศต้นทางต้องการระบายสินค้า แต่ไทยก็อาจได้ประโยชน์จากการปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนของจีน หรือได้ประโยชน์ในกรณีที่สหรัฐนำเข้าสินค้าจากไทยมากขึ้น
ราคาทองผันผวน-สงครามการค้าโลกปะทุ
นายแพทย์กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทในเครือ MTS GOLD แม่ทองสุก กล่าวว่า สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลกจะยังคงผันผวนไปจนถึงสิ้นปี หลังจากภาวะเศรษฐกิจของโลกยังคงมีความไม่แน่นอน จากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ ซึ่งเชื่อว่ากำลังจะเกิดขึ้น หลังจากจีนตัดสินใจขึ้นภาษีตอบโต้ การขึ้นภาษีจากสหรัฐ โดยสงครามการค้าจะส่งผลทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีความผันผวน ซึ่งมีผลโดยตรงต่อสถานการณ์ราคาทองคำและอัตราแลกเปลี่ยนของไทย โดยประเมิน กรอบราคาทองคำในปีนี้ที่ 1,250-1,310 เหรียญสหรัฐฯต่อออนช์ หรือ อยู่ที่ 19,450 - 20,000 บาทต่อบาททองคำ
สำหรับราคาทองในประเทศวันนี้ เปิดตลาด ราคาทองปรับขึ้น 50 บาท ราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 19,750 บาท ขายออกบาทละ 19,850 บาท ราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 19,389.64 ขายออกบาทละ 20,350 บาท