ประกาศเขตถ้ำหลวงเป็น "พื้นที่หวงห้าม" จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย


โดย PPTV Online

เผยแพร่




แม้ภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี เข้าสู่ขั้นตอนทางการแพทย์แล้ว และผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายภายในวนอุทยานถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จะปิดศูนย์ไปแล้วเมื่อวาน แต่เขตถ้ำหลวงขณะนี้ ยังคงถูกประกาศเป็นพื้นที่หวงห้าม

วันนี้ (12 ก.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ยังต้องประกาศเป็นพื้นที่ห่วงห้ามจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย หมายถึงน้ำในถ้ำแห้งสนิท อุปกรณ์ที่ใช้ในภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่าที่อยู่ในถ้ำและบริเวณโดยรอบ จะถูกขนย้ายออกทั้งหมด คนที่ไม่เกี่ยวข้องไม่สามารถเข้ามาในพื้นที่เด็ดขาด ตั้งแต่ 3 แยก ทางเข้าถ้ำหลวง โดยเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ถูกวางกำลังตามคำสั่งให้ถ้ำหลวงเป็นพื้นที่หวงห้าม ตรวจรถยนต์ทุกคันที่จะผ่านเข้า-ออก ในเขตวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ตลอด 24 ชั่วโมง


 

นายดำรงค์ หาญภักดีนิยม หัวหน้าวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เปิดเผยว่า คำสั่งให้ถ้ำหลวง เป็นเขตหวงห้าม มีผลไปจนถึงสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยไม่ได้ระบุระยะเวลาที่ชัดเจน แต่คาดว่าน่าจะสิ้นสุดในช่วงเดือนพฤศจิกายน -มกราคมปีหน้า ซึ่งน้ำในถ้ำลดลง เกือบแห้งทั้งหมด

สำหรับพื้นที่หวงห้ามครอบคลุมรัศมีตั้งแต่เส้นทางเข้าถ้ำหลวง ไปจนถึงบริเวณสำนักงาน โดยปากถ้ำจะเป็นเขตหวงห้ามเด็ดขาด เจ้าหน้าที่ หน่วยงาน ที่จะมารับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจช่วยทีมหมูป่า ต้องขออนุญาตเท่านั้น ส่วนเครื่องมือ อุปกรณ์ที่อยู่ในถ้ำ บางส่วนเจ้าหน้าที่ขนออกมาบ้างแล้ว ส่วนที่อยู่ลึกบริเวณโถง 3 จะรอให้น้ำลดลงก่อนจึงจะสามารถนำออกมาได้ คาดว่าจะอยู่ช่วงเดือนพฤศจิกายน ส่วนพื้นที่โดยรอบวนอุทยานถ้ำหลวง จะเกณฑ์จิตอาสามาร่วมทำความสะอาด ในวันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคมนี้ คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 2 วัน จะแล้วเสร็จ ขณะที่แนวทางที่จะเปิดให้ถ้ำหลวงเป็นที่ท่องเที่ยว หัวหน้าวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อาจต้องดูเรื่องความปลอดภัยให้มั่นใจก่อน กำหนดจุดที่สามารถเข้าชมให้ชัดเจน และ มีมาตรการป้องกันการเข้าออก ระบบแจ้งเตือน

สำหรับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการผันน้ำ นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ลงพื้นที่มอบปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติจากการรับน้ำรอบพื้นที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ที่ ศาลาเอนกประสงค์วัดสันปูเลย ต.บ้านด้าย อ.แม่สาย จ. เชียงราย พร้อมพบปะเกษตรกร เพื่อขอบคุณที่ร่วมแรงร่วมใจช่วยให้นักฟุตบอลเยาวชนและโค้ช ทีมหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย 13 คน ออกจากถ้ำหลวงได้สำเร็จ และขอบคุณเกษตรกร 19 คน ที่ไม่ขอรับเงินช่วยเหลือ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเต็มที่ ส่วนพื้นที่การเกษตรที่เสียหายสิ้นเชิง 1,266 ไร่ มีเกษตรกรได้รับผลกระทบ 126 ราย วงเงินในการขอรับความช่วยเหลือ 1,409,892.75 บาท

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ