เมื่อวันที่ (19 ก.ค. 61) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. กล่าวภายหลังประชุมบอร์ด กสทช.ว่า บอร์ดได้พิจารณาเรื่องมาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการเพื่อรองรับการสิ้นสุดสัมปทานการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ความถี่ย่าน 850 และ 1800 เมกะเฮิร์ตซ์ ของ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ที่จะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในวันที่ 15 ก.ย.2561 และความเห็นของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงานของกสทช.ด้านกิจการโทรคมนาคม
สืบเนื่องมาจาก กสทช. ออกประกาศจัดให้มีการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิร์ตซ์ ล่วงหน้าก่อนสิ้นสุดสัมปทานและได้กำหนดให้มีการยื่นคำขอเข้าร่วมการประมูลวันที่ 15 มิ.ย. 2561 แต่ไม่มีผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตเพื่อเข้าร่วมการประมูล รวมถึงดีแทค ต่อมากสทช. ได้มีมติปรับปรุงหลักเกณฑ์ และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 1800 เมกะเฮิร์ตซ์ และเปิดประมูลวันที่ 19 ส.ค.2561 พร้อมอนุมัติให้จัดประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ เพิ่มเติมวันที่ 18 ส.ค.เพื่อให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นสุดสัญญาสัมปทาน
นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าดีแทคเข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่ดังกล่าวแล้ว แต่กระบวนการออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ให้บริการรายใหม่จะต้องใช้ระยะเวลาช่วงหนึ่ง หรือราว 3 เดือน ดังนั้น ไม่ว่าผู้ชนะการประมูลคลื่น 1800 และ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ จะเป็นผู้รับสัมปทานเดิมหรือไม่ก็ตาม ผู้รับสัมปทานเดิมย่อมได้รับสิทธิเข้าสู่มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการได้จนกว่า กสทช. จะได้จัดสรรคลื่นความถี่ให้กับผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่รายใหม่และกำหนดวันหยุดการให้บริการ
ทั้งนี้ หากดีแทคต้องการจะเข้าสู่มาตรการเยียวยาจำเป็นต้องเข้ามายื่นซองประมูลประมูล แต่หากยื่นซองเพื่อเข้าประมูลแต่ไม่ยอมเคาะราคา ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองเช่นเดียวกัน แต่หากยื่นซองและเข้าเคาะราคาแต่ในท้ายที่สุดกลับไม่ใช่ผู้ชนะ ดีแทคก็จะได้รับความคุ้มครองตามมาตรการเยียวยาไปจนกว่าผู้ชนะจะมาจ่ายค่าใบอนุญาตตามที่กสทช.กำหนดงวดแรกคือใน 90 วัน ซึ่งปัจจุบันดีแทคมีลูกค้าอยู่ในสัมปทานดังกล่าวราว 100,000 ราย หากไม่ได้เยียวยาลูกค้าในส่วนนี้ก็จะซิมดับทันที