ขอให้เป็นกรณีตัวอย่าง!! “เมย์” จีระนันท์ กับการทำศัลยกรรมเกาหลี


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หลังจากตกเป็นข่าวดัง อดีตนักร้องสาวชื่อดัง “เมย์-จีระนันท์ กิจประสาน” เกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการศัลยกรรมหน้าอกกับโรงพยาบาลดังที่เกาหลีใต้ และต้องหอบเอาถุงระบายเลือดกลับมาถอดที่ประเทศไทยในคลินิกที่เป็นเครือข่ายเดียวกัน จนเกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดอาการทรุดหนักต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้ง วันนี้ เมย์-จีระนันท์ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อแพทยสภา และสบส.ให้เอาผิดกับแพทย์และคลินิกดังกล่าว รวมทั้ง ร้อง สคบ. ให้ตรวจสอบเอเจนซี่ที่เป็นตัวแทนนำคนไทยไปศัลยกรรมว่ามีเอกสารหรือใบอนุญาตที่ถูกต้องหรือไม่

ก่อนหน้านี้ นางสาวจีระนันท์ กิจประสาน หรือ “เมย์” อดีตนักร้องชื่อดัง ได้เปิดเผยเรื่องราวถึงการทำศัลยกรรมหน้าอกที่ผิดพลาดของตนเอง ว่า ได้ตัดสินใจเดินทางไปทำศัลยกรรมตาและหน้าอกที่ประเทศเกาหลีใต้ ผ่านทางเอเจนซี่คนไทยที่มักจะพาสาวไทยไปทำศัลยกรรมทั้งใบหน้า และรูปร่างที่โรงพยาบาลชื่อดังที่ประเทศเกาหลีใต้อยู่เป็นประจำ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะประสบความสำเร็จในการทำศัลยกรรม มีทั้งดารา เน็ตไอดอล และคนในแวดวงไฮโซ แตกต่างกับเธอที่เป็นเพียงส่วนน้อยที่เกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการทำศัลยกรรมครั้งนี้ เนื่องจากเธอเกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดจากการศัลยกรรมหน้าอก

โดยแพทย์ชาวเกาหลีใต้ที่ปล่อยให้เธอต้องหอบหิ้วเอาถุงระบายเลือดขึ้นเครื่องบินกลับมายังประเทศไทยด้วย ก่อนที่นายแพทย์คนเดิมจะมาทำการรักษาให้ที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่เป็นเครือข่ายเดียวกัน จากนั้นอาการของเธอกลับทรุดหนัก และพบว่าติดเชื้อในกระแสเลือด จนต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้งจากโรงพยาบาลในไทย โดยที่เอเจนซี่คนไทย โรงพยาบาลที่เกาหลีใต้ และคลินิกในประเทศไทยไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใดๆ มีเพียงการออกมาโพสต์ชี้แจงจากเอเจนซี่เกี่ยวกับขึ้นตอนการรักษา รวมถึงการติดตามเรื่องการดูแลรักษาในขั้นต้นเท่านั้น (อ่านข่าว : “อดีตนักร้องดัง” โพสต์เตือน ทำศัลยกรรมที่เกาหลีหวิดดับ ) 

วันนี้ (2 ส.ค.61) เมย์ จีระนันท์ จึงได้เดินทางมาพร้อมกับทนายที่ สำนักงานเลขาธิการแพทยสภา เพื่อเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนให้มีการตรวจสอบ กรณีที่แพทย์ และพยาบาลชาวต่างชาติเข้ามาทำหัตถการทางการแพทย์ในประเทศไทย ว่าได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

โดยเมย์ ยอมรับว่า ศึกษาหาข้อมูลน้อยมาก โดยดูจากการประชาสัมพันธ์ทางเพจ ทางเฟซบุ๊ก และยูทูป ซึ่งตัวเอเจนซี่ก็เป็นเป็น brand ambassador ของโรงพยาบาลนี้ ซึ่งเธอไม่ได้ศึกษาถึงในด้านผลเสีย ในเรื่องของปัญหาหลังการผ่าตัด รวมทั้งข้อมูลอื่น อาทิ โรงพยาบาลในไทย และหมอในไทยเก่งมากในการทำศัลยกรรม หลังจากที่เกิดเรื่องทำให้รู้ว่าการศัลยกรรมหน้าอก ประเทศไทยเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชีย และของโลกเลยก็ว่าได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นความผิดพลาดของตัวเองที่หาข้อมูลน้อยด้วย

ทั้งนี้ อยากให้นำกรณีของเมย์เป็นตัวอย่าง ในจุดที่เป็นจุดอ่อนหรือข้อบกพร่องของตนเองในการตัดสินใจทำ อันดับแรกควรให้ศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน อย่าดูแต่เพียงรีวิว หรือโฆษณาที่เขาคัดแต่คนที่เขาทำแล้วประสบความสำเร็จ สวย ๆ หรือแม้กระทั่งให้ดารา หรือเน็ตไอดอล ก็ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งในการทำศัลยกรรมก็มีคนที่ประสบความสำเร็จและเปลี่ยนชีวิตเขาในทางที่ดีขึ้นจริง ๆ แต่ในอีกมุมหนึ่งที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้เลย คือมีอีกหลายคนมากที่ทำแล้วผิดพลาด ทำแล้วเสียหายและไม่อาจแก้ไขกลับคืนมาเหมือนเดิมได้ บางคนเสียชีวิต บางคนเสียโฉม หรือพิการไปตลอด อย่างของเมย์ก็เกือบที่จะทิ้งชีวิตเลย อยากให้ศึกษาข้อมูลเชิงลึกด้วย ถึงประวัติ ไปถึงโรงพยาบาลว่ามีเคสหลุด เคสพังหรือไม่ รวมทั้งศึกษาถึงผล และอาการที่ผิดปกติหลังการผ่าตัดต่าง ๆ เพราะหากเมย์ได้ศึกษามาก่อนว่าอาการที่มีสายระบายเลือดนานผิดปกติ มีเลือดออกมาก อย่างนี้ คือความผิดปกติ ต่อให้คุณหมอหรือเอเจนซี่จะบอกว่ามันปกติ อย่างน้อยก็จะมีความรู้อยู่แล้ว ก็จะสามารถดูแลตัวเองและตัดสินใจได้ถูกต้องกว่านี้

ด้านนายแพทย์สัมพันธ์ คมฤทธิ์ ที่ปรึกษาแพทยสภา กล่าวว่า วันนี้ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวแล้ว โดยต้องดูข้อมูลรายละเอียดต่างๆ และนำเข้าที่ประชุมแพทยสภาภายใน 7 วัน สิ่งที่ต้องพิจารณา คือ แพทย์ในประเทศไทยมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ในการอนุญาตให้แพทย์ต่างประเทศมาประกอบวิชาชีพในประเทศไทย ส่วนแพทย์ต่างประเทศที่มาก็มีกฎหมายอื่นรองรับอยู่แล้ว ต้องมาดูว่าจริงหรือไม่ และแพทย์ได้ทำอะไรบ้าง  

การที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการรักษาก็เท่ากับเป็นหมอเถื่อน มีโทษปรับและจำคุกทางกฎหมาย แต่กรณีที่เป็นแพทย์ต่างประเทศ ซึ่งไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว เพราะฉะนั้นอำนาจของแพทยสภาหรือกฎหมายไทยอยู่เพียงในราชอาณาจักรไทยเป็นหลัก เรื่องนี้มีหลายส่วนที่ต้องพูดคุยกัน อย่างน้อยเรื่องนี้ต้องเป็นอุทธาหรณ์ เป็นตัวอย่าง แล้วก็เป็นบทเรียนให้กับประเทศได้ รวมถึงสาวๆ ที่สนใจไปทำศัลยกรรมในต่างประเทศ

หลังจากที่ยื่นหนังสือกับทางสำนักงานเลขาธิการแพทยสภาแล้ว เมย์-จีระนันท์ ยังได้เดินทางไปยื่นหนังสือที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแลเกี่ยวกับสถานพยาบาลและคลินิกเสริมความงาม เพื่อให้ตรวจสอบในกรณีที่เกิดขึ้น

นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว พร้อมระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้ลงพื้นที่ไปยังคลินิกดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่ เมย์ จีระนันท์ ยังไม่ได้เข้ามาร้องเรียน ทั้งนี้ วันที่ลงไปตรวจสอบในเรื่องของอุปกรณ์ทางการแพทย์ แพทย์ ไม่พบแพทย์ชาวต่างชาติ พบเพียงแพทย์ชาวไทย พยาบาลชาวไทย และคลินิกก็มีใบอนุญาตถูกต้อง แต่ในครั้งนี้ได้รับข้อมูลจากทางผู้เสียหายแล้ว ก็จะลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง และจะดูรายละเอียดต่างๆ ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล

ทั้งนี้ ข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล หากพบว่าสถานพยาบาลนั้นๆ มีหมอเถื่อนทำการรักษา หมอเถื่อนจะต้องมีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ, คลินิกเถื่อน มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และผู้ที่อนุญาตให้แพทย์ต่างชาติเข้ามาทำหัตถการโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท

เมย์-จีระนันท์ กล่าวย้ำว่า อยากให้นำกรณีของตนเป็นตัวอย่าง สำหรับคนที่คิดจะทำศัลยกรรม

 

อ่านข่าว :

เอเย่นต์เผย “เมย์-จีระนันท์” ฟ้องหมอเกาหลีเรียกค่าชดเชย 60 ล้านบาท

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ