เปิดใจ "น.ศ.อุเทนถวาย" วอนลงโทษฆาตกร "คดีเต้" ให้ได้ หวั่น 2 สถาบันเปิดศึกล้างแค้นกันเอง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




จากคดีที่พ่อของเต้ นายศุภชัย ทัฬหสุนทร หลังจากฟังคำพิพากษาว่าลูกชายที่ถูกฆ่าเมื่อสงกรานต์ปี 59 ไม่มีหลักฐานอะไรเอาผิดคนร้ายได้ จึงตัดสินใจกระโดดลงมาจากอาคารศาลอาญาชั้น 8 ทำให้ญาติๆยังคงทวงถามความยุติธรรม แต่มีอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวแทรกเข้ามาในช่วงนี้ เนื่องจากมีนักศึกษาของอุเทนถวาย เดินทางไปยื่นหนังสือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องความชัดเจนให้กับคดีนี้

"เปี๊ยก" รุ่นน้องร่วมสถาบันของเต้ หนึ่งในผู้ร่วมเดินทางไปยื่นหนังสือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยในรายการเป็นเรื่องเป็นข่าวว่า การไปยื่นหนังสือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกิดจากการที่พ่อของพี่เต้ กระโดดตึก มันเป็นการบ่งบอกว่ากระบวนการยุติธรรม มันไม่เป็นความยุติธรรม ทำให้ตนเองและกลุ่มเพื่อนร่วมสถาบันปรึกษากัน ว่า ยังมีอีกหลายๆคดี ที่เป็นลักษณะเดียวกันแบบนี้ คือ เด็กอุเทนฯ ถูกกระทำ แต่ไม่สามารถจับคนร้ายมาได้ มันไม่ใช่ 1-2 คดี ในลักษณะนี้มันมีมาเรื่อยๆ ทำให้พวกผมรวมตัวกันไปเพื่อยื่นหนังสือให้กับทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ท่านทราบว่าเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นกับเด็กอุเทนฯ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร ยังไม่สามารถจับคนร้ายมาได้

โดยส่วนตัวมองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกจากกล้องวงจรปิดที่มี รวมถึงพยาน 1 คน แล้ว น่าจะมีหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติมอีก เพราะลักษณะที่เกิด ผู้คนบริเวณนั้นก็เยอะ ภาพจากกล้องวงจรปิดก็น่าจะไม่ได้มีเพียงจุดนี้ น่าจะต้องมีการสืบที่มาที่ไป ซึ่งหลักฐานมันน่าจะมากกว่านี้ ไม่ใช่แค่การเอาพยานมาสืบแค่เพียง 1 คน ทำไมจึงไม่นำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์คนอื่นๆ มาสอบปากคำว่าวันนั้นเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ซึ่งที่ผ่านเพื่อนๆรวมสถาบันก็ได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด และทุกๆคดีก็ได้ติดตามด้วยเช่นกัน พยายามจะสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นเจ้าของคดีว่ามีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง แต่ก็สามารถทำไดเพียงแค่ติดตามไม่สามารถไปกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้

คดีการเสียชีวิตของเต้ไม่ใช่คดีแรก หรือ คดีเดียว แต่ยังมีอีก 7 คดี ที่เป็นคดีในลักษณะเดียวกัน ในการติดตามคดีก็พบว่าจากกล้องวงจรปิดมันสิ้นสุดแค่บางจุด ยังไม่สามารถตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ และยังหาหลักฐานอื่นมาเพิ่มไม่ได้

เช่นเดียวกับ "เบ้ง" รุ่นน้องร่วมสถาบันอีกหนึ่งคน บอกว่า กระบวนการยุติธรรมมันถูกต้องแล้ว แต่ยังติดอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าคดีของเต้ติดอยู่ที่การทำงานของตำรวจซึ่งเป็นขั้นแรก มองว่าหลักฐานมันน่าจะได้เยอะกว่านี้ ยกตัวอย่าง เช่น การนำตัวผู้ต้องหามาในคลิปก็เห็นอยู่แล้วว่าเข้าไป 6-8 คน แต่ทำไมตำรวจถึงจับคนแค่ 2 คน ซึ่งจริงๆแล้วน่าจะรวบมาทั้งหมด แล้วค่อยซักถามทีละคน เพื่อให้เขาซักทอดกัน แต่ตำรวจกลับเลือกจะจับแค่ 2 คน แล้วพอมาถึงวันตัดสินกลับพบว่าโจ้ยกฟ้อง แต่อีกคนรับว่าทำเพราะว่า ในมุมมองของผม เพราะว่าคนนั้นเป็นเยาวชน ซึ่งเยาวชนโทษของกฎหมายไทยมันค่อนข้างน้อย โอกาสติดคุกมันน้อย มันน่าจะรอลงอาญามากกว่า

ส่วน “ตง” วันที่ศาลให้มาเป็นพยานก็ดันป่วยทางจิต ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่าใบที่นำมาว่าเขาป่วยจริง หรือ สถาบันไหนออกให้ เพราะผมคิดว่า ใบแบบนี้คงออกกันไม่ยากหรอก แต่ถ้าอยากทราบจริงๆก็ต้องเจอตัวตง แล้วก็ให้ตงมาพูดต่อหน้าเลย ว่าตงบ้าจริง คนบ้ามันดูไม่ยากหรอก และใบที่รับรองก็น่าจะทำไม่ยากเหมือนกัน มันก็เหมือนกับคนอยากหยุดงาน ก็ต้องมีใบรับรองแพทย์ ซึ่งไม่ได้ป่วยจริง แต่ก็หาใบรับรองแพทย์มายื่นได้

โดยจากการที่ผมฟังเรื่องราวทั้งหมดจากหลายๆช่อง หลายๆสื่อ ตอนแรกที่เราไม่ไดอยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่รู้ แต่ว่าพอมีวันหนึ่งที่โจ้มาไลฟ์สด และพูด ก็เริ่มเห็นภาพ ว่าจริงๆแล้วเขาก็มีเรื่องกันมาก่อน ว่ามีการต่อยเตะกันทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งจริงๆมันก็ต้องอยู่ในคำว่าร่วมกันแล้ว ร่วมกันทำร้าย ร่วมกันฆ่า ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยกฟ้อง เพราะเขาก็พูดเองในคลิปว่าเขาต่อยเตะ เท่ากับว่าเขาต้องมีส่วนร่วมอยู่แล้ว คนที่เดินเข้ามาอีก 6-7 คน บอกว่าเขาก็ไม่รู้จักเลย ป้าแหม่มดันเขาออกไป แต่พอมาตอนหลัง 4 คน คนพวกนั้นรู้จักกับโจ้หมดเลย และจะเป็นไปได้ไงว่าโจ้ไม่ได้ร่วมในเหตุการณ์ มันฟังไม่ขึ้น ซึ่งโจ้ก็ยอมรับอะไรเองหลายๆอย่าง ในเรื่องของตง โจ้ก็พูดว่า คิดว่าตงต้องแกล้งบ้า เพราะว่ามีคดีเยอะชอบไปหลอกคนอื่น เพื่อที่จะหลบหนีคดีหลายๆคดี แสดงว่าตงต้องทำมาหล่ยครั้งแล้ว จากปากโจ้ที่ไลฟ์สดวันนั้น ก็เหมือนมัดตัวเขา ซึ่งตงก็เข้าข่ายแกล้งบ้า และต่อมาได้มีนักข่าวไปสัมภาษณ์พ่อของโฟล์ค ซึ่งโฟล์คเป็นทั้งเพื่อนโจ้ และเพื่อนเต้ และพ่อโฟล์คให้ข้อมูลว่า ตงจะบ้าได้ยังไง ยังมานั่งกินเหล้าอยู่เลย

ด้านนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความของคดีนี้ ระบุว่า สิ่งที่ทั้ง 2 เพื่อนร่วมสถาบันของเต้ พูดถึงเป็นเรื่องที่ถูกต้องทั้งหมด ซึ่งโจ้เขาก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเขาก็ได้ร่วมเตะต่อยเหมือนกัน แสดงว่าเตะต่อยก็มีส่วนร่วมในการทำความคิด ยกตัวอย่างคดี 7 โจ๋ ฆ่าคนพิการ ที่ 4 คนกำลังรุมทำร้ายชายพิการมี 2 คนยืนอยู่เฉยๆ แต่ 2 คนนี้เดินไปเดินมาก็ยังโดนข้อหาสนับสนุน เพราะฉะนั้นอย่างน้อยๆ โจ้ก็ต้องมีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ร่วมกันทำร้ายร่างกาย หรือร่วมกันฆ่าก็ตามเพราะว่ามีส่วนร่วม ซึ่งควรจะต้องเอาพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบปากคำ เพื่อสืบหาข้อเท็จจริง

นอกจากนี้ เพื่อร่วมสถาบันของเต้ทั้ง 2 คน ยังมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เหตุการณ์แรก ยังมีอีกหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นในลักษณะนี้ ที่ไม่มีความคืบหน้าอะไรในคดีเลย รวมถึงคดีของเอ็มที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในงานศพเต้ ซึ่งพ่อของเอ็มก็พยายามตามคดีตลอด ซึ่งทางสถานีตำรวจนครบาลหัวยขวางก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือ พวกเราจึงตัดสินใจยื่นหนังสือเพื่อให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ช่วยเร่งรัดคดี คลี่คลายคดีนี้ให้ปรากฎเพื่อให้ทางสถาบันของตนเอง และสถาบันอื่นจะได้ไม่ต้องมาคิดกันไปเอง และคิดเรื่องการแก้แค้นระหว่างสถาบันซ้ำไปซ้ำมาอีก

ดูคลิปที่นี่ : เปิดใจ "น.ศ.อุเทนถวาย" วอนลงโทษฆาตกร "คดีเต้" ให้ได้ หวั่น 2 สถาบันเปิดศึกล้างแค้นกันเอง

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ