ก.พาณิชย์ สั่งคุมเข้มดูแลสินค้าในพื้นที่น้ำท่วม พบใครฉวยโอกาสจับทันที


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กระทรวงพาณิชย์ สั่งคุมเข้มราคาสินค้าในพื้นที่น้ำท่วม พบฉวยโอกาสดำเนินคดีทันที ขณะที่กรมสรรพากรแจงสำหรับผู้บริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมสามารถหักลดหย่อนภาษีได้

วันนี้ (7 ส.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน และพาณิชย์จังหวัด ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและดูแลพื้นที่ประสบภัย ไม่ให้เกิดภาวะสินค้าขาดแคลน ไม่ให้ฉวยโอกาสโก่งราคาสินค้า กักตุน หรือปฎิเสธการขาย หากพบการกระทำผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที โทษทั้่งจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเบื้องต้นจากรายงานพาณิชย์ยังไม่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนถึงสินค้าขาดแคลนหรือขายเกินราคา ในพื้นที่จังหวัดในภาคอีสานหรือจังหวัดเพชรบุรี

นอกจากนี้ กรมการค้าภายในยังได้หารือห้างค้าปลีกรายใหญ่ ให้เตรียมพร้อมเป็นศูนย์กระจายสินค้าตามภูมิภาค และเพิ่มสต็อกสินค้าที่คาดว่าจะเป็นที่ต้องการของประชาชนเพิ่มขึ้น อย่างของกิน เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช บะหมี่สำเร็จรูป น้ำดื่ม น้ำตาลทราย และไข่ไก่ เป็นต้น ส่วนของใช้ อย่าง ผ้าอนามัย และผ้าอ้อมเด็ก เป็นต้น ส่วนถุงบรรจุทรายหรือปูนซิเมนต์ ยังเป็นเรื่องที่ภาครัฐเตรียมพร้อม ความต้องการประชาชนซื้อเพิ่มยังไม่มี โดยภาพรวมการค้าและราคาสินค้ายังปกติ ไม่มีการตื่นเหมือนปี 2554 และยืนยันว่ากระทรวงพาณิชย์เตรียมพร้อมในการดูแลสินค้าให้เพียงพอ และราคาเป็นธรรม โดยหลังจากน้ำลด ก็จะจัดโมบายธงฟ้าเข้าจำหน่ายเพื่อลดภาระประชาชนทันที 

ด้านกรมสรรพากร แจ้งว่า ผู้บริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ได้กระทำการบริจาคให้แก่ส่วนราชการตามโครงการของทางราชการ หรือบริจาคผ่านบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ได้แจ้งชื่อต่อกรมสรรพากรเพื่อเป็นสื่อกลางในการเป็นตัวแทนรับบริจาค สามารถนำเงินหรือมูลค่าทรัพย์สินที่บริจาคมาหักเป็นค่าลดหย่อนหรือหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีได้

โดย ผู้บริจาคที่เป็นบุคคลธรรมดา สามารถนำเงินบริจาคมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้เท่าจำนวนเงินที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับเงินบริจาคอื่น ๆ แล้ว ต้องไม่เกิน  10 เปอร์เซ็นต์ ของเงินได้สุทธิ ผู้บริจาคที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สามารถหักเป็นรายจ่ายได้เท่าจำนวนเงินหรือทรัพย์สินที่ได้บริจาค แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อการสาธารณประโยชน์ รายจ่ายเพื่อการศึกษาและรายจ่ายเพื่อการกีฬาแล้ว ต้องไม่เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ ของกำไรสุทธิ ผู้บริจาคที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม จะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการนำสินค้าของตนเอง หรือที่ได้ซื้อมาไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ