การศึกษาโดยใช้กล้องสำรวจอวกาศสปิตเซอร์และฮับเบิ้ล รวมทั้งการจำลองรูปแบบทางคอมพิวเตอร์ของนาซาทำให้ทราบว่ากลุ่มดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะจักรวาลที่เรียกว่า Ultrahot Jupiter ดาวพฤหัสร้อนสุดขั้ว จริงๆ แล้วมีโมเลกุลของน้ำ นั่นคืออะตอมของไฮโดรเจนและอะตอมของออกซิเจน แต่ด้วยอุณหภูมิที่สูงทำให้โมเลกุลของน้ำเหล่านี้ถูกทำลายไป
การศึกษาดังกล่าว พบว่า เมื่อโมเลกุลเหล่านี้ถูกทำลายไปจนกลายสภาพเป็นอะตอมของไฮโดรเจนและออกซิเจน อาจถูกลมพัดลอยข้ามไปยังด้านมืดของดาว ซึ่งอะตอมกลุ่มนี้ได้กลับมารวมตัวเป็นโมเลกุลอีกครั้ง และก่อตัวเป็นก้อนเมฆลอยกลับมายังด้านที่มีแสงสว่าง จะถูกทำลายไปด้วยความร้อนอีกครั้ง
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะดาวเคราะห์ดวงนี้ โคจรรอบดาวฤกษ์โดยไม่หมุนรอบตัวเอง คล้ายกับดวงจันทร์ที่โคจรรอบโลก โดยหันด้านเดียวเข้าหาโลกตลอดเวลา ส่วนเหตุผลที่ทำให้มันแตกต่างจาก “ดาวพฤหัสร้อนสุดขั้ว” ดวงอื่นๆ ที่เคยพบ เนื่องจากด้านที่หันหน้าเข้าหาดาวฤกษ์ที่มันโคจรไปรอบๆ มีอูณหภูมิสูงถึง 2,000 - 3,000 องศาเซลเซียส
ขอบคุณภาพจาก https://www.nasa.gov/feature/jpl/water-is-destroyed-then-reborn-in-ultrahot-jupiters
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >>> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้