วันนี้ (10 ส.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ออกประกาศเตือนนักลงทุนหากถูกชักชวนให้ลงทุนในไอซีโอ หรือแบบที่การนำเงินสดไปไปเปลี่ยนโทเคนดิจิทัล ว่าปัจจุบันยังไม่มีผู้ออกไอซีโอรายใดได้รับการอนุญาต รวมทั้งยังไม่มีผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล ( ICO portal) ที่ได้รับการยอมรับจาก ก.ล.ต. หากอนาคตมีผู้ออกไอซีโอ หรือ ICO portal ที่เป็นไปตามเกณฑ์แล้ว ก.ล.ต. จะเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวบนเว็บไซต์ ก.ล.ต. ต่อไป ส่วนกรณีที่ถูกชักชวนให้ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลโดยมีผู้แสดงตนเป็นตัวกลาง ไม่ว่าจะในฐานะศูนย์ซื้อขาย นายหน้า หรือผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น ก.ล.ต. ขอให้ผู้ลงทุนตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ติดต่อชักชวนบนเว็บไซต์ ก.ล.ต. ก่อน
ทีมข่าวพีพีทีวี สอบถามนายปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงด้านความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์ กล่าวว่า จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับความผิดพลาดของระบบการทำงานของเงินสกุลดิจิตอลที่กลุ่มผู้ต้องหาใช้กล่าวอ้างว่าจะนำเงินไปลงทุนเพื่อให้ได้ค่าตอบแทนที่สูง แต่กลุ่มผู้ต้องหาใช้เงินสกุลดิจิทัล มาเป็นเครื่องมือหลอกลวงผู้เสียหาย เรื่องนี้จึงเป็นเหมือนคดีฉ้อโกงที่นำสกุลเงินดิจิตอลมาอ้างอิง เพราะที่ผ่านมารัฐบาลก็ออกพระราชกำหนดการ ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561 เพื่อกำกับความมั่นคงของธุรกิจที่อยู่ในวงการลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลแล้ว ในระดับหนึ่งแล้ว ว่า เช่น บริษัทที่จะมารับแลกเปลี่ยนเงินกลุ่มนี้ ต้องมีทุนจดทะเบียน 50 ล้านเป็นต้น
นายปริญญา เสริมว่า ภาครัฐโดยหน่วยงานที่กำกับดูแล อย่างคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ต้องมีความตื่นตัวในการให้ข้อมูล ความรู้ที่จะทำให้นักลงทุนทุกกลุ่มรู้เท่าทันภัยอาญชากรรมรูปแบบต่างๆที่มีในโลกดิจิตอลมากขึ้น
ด้าน นางสาวนิลทิตา เลิศเรืองศุภกุล กรรมการสมาคมฟินเทคประเทศไทย หนึ่งในผู้ให้ความรู้เรื่องการลงทุนในสกุลเงินดิจิตอล บอกว่า ผู้ที่จะลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ต้องความศึกษาไวท์เปเปอร์หรือหนังสือชี้ชวนการลงทุนให้ระเอียด ตรวจสอบไปจนถึงผู้บริหารและนักพัฒนา และรูปแบบการดำเนินธุรกิจของผู้ที่ออกไอซีโอ วางมีมูลค่าทางการตลาด เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงสูงหรือถูกหลอกลวง
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >>> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้