เมื่อวันที่ (12 ก.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมเตรียมความพร้อมเผชิญเหตุโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร (African swine fever) นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวกับ ผู้เข้าร่วมประชุม เจ้าหน้าที่ภาครัฐ สถาบันการศึกษา สมาคมวิชาชีพต่างๆ และเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร รวมถึงหน่วยงานความมั่นคง ว่า ทุกฝ่ายต้องเตรียมความพร้อม สร้างแผนเพื่อป้องกันควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร แม้ตอนนี้จะยังไม่ระบาดมายังประเทศไทย
ซึ่งที่ผ่านมาได้ประสานเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสนามบินสุวรรณภูมิ ตรวจเข้มชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์หมูนำเข้าจากจีน หลังอหิวาต์แอฟริกันในหมูระบาดหนักที่จีน พร้อมคุมเข้มด่านชายแดน 89 ช่องทางใน 25 จังหวัด รวมถึงออกประกาศชะลอนำเข้าไทย 90 วันพร้อมประสานกระทรวงกลาโหมจับตาด่านพรมแดนห้ามเคลื่อนย้าย เพราะเชื้อมีความทนทานอยู่นานกว่า6เดือน
ทั้งนี้ได้มอบใน 7 แนวทางในการสร้างแผนรับมือโรคนี้ คือ การป้องกันโรคเข้าประเทศเชิงบูรณาการ การเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโรคของฟาร์ม การสื่อสารความเสี่ยงและการเตือนภัย การเพิ่มประสิทธิภาพในการเฝ้าระวังโรค เครือข่ายทางห้องปฏิบัติการ การควบคุมโรค และการฟื้นฟูเกษตรกรภายหลังได้รับผลกระทบจากโรค ซึ่งทั้งหมดได้มีการแบ่งหน้าที่ให้หน่อยงานต่างๆอย่างชัดเจน
นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า การที่ รัฐบาล ได้ระงับการนำเข้าสุกรจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกัน ถือว่า จะช่วยเรียกความมั่นใจตลาดหมูในประเทศได้ดีขึ้น เพราะขณะนี้ อยู่ในช่วงหน้าฝน ซึ่งถือเป็นช่วงที่ราคาสุกรอยู่ในภาวะล่อแหลม เพราะมีโปรตีนจาก สัตว์อื่น อย่าง กบ เขียด หรือสัตว์ที่เกิดตามฤดู เป็นตัวเลือก จึงความต้องการหมูลดลงอยู่แล้ว
แต่ นายสุรชัย เชื่อว่า โรคระบาดในหมูในต่างประเทศที่เกิดขึ้น จะไม่มีผลทางจิตวิทยาให้คนลดการบริโภคเนื้อหมู และที่สำคัญ โรคนี้ไม่ติดต่อถึงคน แต่หากโรคนี้ระบาดเข้ามาได้ ไวรัสที่จะสามารถอยู่ในพื้นที่ตลอดไป เพราะยังไม่มีวัคซีนในการป้องกันและควบคุมโรค