เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.61) นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ระบุถึงพฤติกรรมการเซลฟี (selfie) ของประชาชนในสังคมออนไลน์ว่า น่าเป็นห่วง ซึ่งหากเซลฟีในลักษณะเหมาะสม คือไม่ได้หวังผล จะไม่มีผลเสีย เก็บไว้เป็นความประทับใจได้ แต่หากเซลฟีบ่อยเพื่อให้เพื่อนกดไลค์ จนเกิดการหมกมุ่น อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นหรือความมั่นใจในตัวเองได้ และอาจทำให้เกิดความผิดปกติทางจิตใจและอารมณ์ได้ง่าย เป็นภัยเงียบที่น่าเป็นห่วง หากเป็นเยาวชน วัยรุ่นจะมีผลกระทบต่ออนาคต เด็กที่ขาดความมั่นใจในตัวเองจะมีผลให้พัฒนาตัวเองยาก ขาดภาวะการเป็นผู้นำ และมีผลต่อการพัฒนาประเทศในอนาคตอย่างคาดไม่ถึง
ด้านแพทย์หญิงกุสุมาวดี คำเกลี้ยง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า พฤติกรรมถ่ายเซลฟีที่น่าเป็นห่วงมี 2 ประการ คือ ถ่ายเซลฟีร่วมกับการใช้แอพพลิเคชั่นแต่งเติมหน้าตัวเองให้ดูดี มีสีสันสดใสตามความต้องการ เช่น ตาดำโต หน้าเรียว แก้มชมพู และปากแดง ขณะนี้กำลังได้รับความนิยมมากทั้งไทยและต่างประเทศ หากใช้บ่อยจะมีผลทำให้ขาดความมั่นใจในการเผชิญหน้าจริงกับผู้คนที่เป็นเพื่อนในโลกโซเชียล หรือเผชิญโลกแห่งความเป็นจริง อาจจะเกิดการยอมรับความจริงไม่ได้ และถัดมาการใช้แอพพลิเคชั่น ถ่ายเซลฟีบ่อยเกินไป อาจเป็นสัญญาณของผู้ที่หมกมุ่นไม่พึงพอใจรูปร่างหน้าตาของตนเองมากผิดปกติ เรียกว่า กลุ่มอาการบีดีดี (Body Dysmorphic Disorder :BDD)