เมื่อวานนี้ นางฟาตู เบนซูดา อัยการสูงสุดแห่งศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) เปิดกระบวนการสอบสวนในขั้นต้น ต่อข้อกล่าวหาที่ว่ากองทัพเมียนมาร์ได้ใช้กำลังเข่นฆ่า ข่มขืน และกวาดล้างชาวมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่ เมื่อปีที่แล้ว เป็นเหตุให้ชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญากว่า 700,000 คน ทั้งชาย หญิง และเด็ก ต้องหลบหนีเข้าไปในบังกลาเทศ ซึ่งเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรง และอาจเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
โดยการสอบสวนของศาลในขั้นต้นนี้ อาจนำไปสู่การสอบสวนอย่างเป็นทางการและเต็มรูปแบบต่อไป
ท่าทีดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นาน หลังจากศาลอาญาโลกออกมาประกาศว่า ศาลมีอำนาจพิจารณาโทษกองทัพเมียนมาร์ จากสถานการณ์ความไม่สงบในรัฐยะไข่ได้ ขณะที่สหประชาชาติก็ออกรายงาน เรียกร้องให้มีการสอบสวนเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของเมียนมาร์ ซึ่งรัฐบาลเมียนมาร์ออกมาปฏิเสธไม่ยอมรับรายงานฉบับนี้ โดยอ้างว่าไม่มีความยุติธรรม เพราะไม่มีการพูดถึงความพยายามของรัฐบาลในการสร้างสันติภาพระยะยาวในรัฐยะไข่
ขณะที่ในวันนี้ นายเจเรมี ฮันท์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ มีกำหนดจะเดินทางถึงเมียนมาร์ เพื่อเข้าพบกับนาง อองซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมาร์ รวมถึงลงพื้นที่รัฐยะไข่ด้วย
จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความแน่ชัดว่าจะมีการตั้งข้อหาหรือเอาผิดกับผู้นำทหารเมียนมาร์ได้หรือไม่ เนื่องจากเมียนมาร์ไม่ได้เป็นรัฐภาคีในธรรมนูญกรุงโรม เท่ากับไม่จำเป็นต้องยอมรับอำนาจของศาลอาญาโลก อย่างไรก็ตาม ทางอัยการยืนยันว่า คดีดังกล่าวอยู่ในขอบเขตการพิจารณาของศาล เนื่องจากประเทศปลายทางที่ได้รับผลกระทบอย่างบังกลาเทศ เป็นสมาชิกของศาลอาญาโลก
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >>> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้
