เมื่อวันที่ (22 ก.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะชัดเจนว่าจะใช้แอพพลิเคชั่นที่กำลังออกแบบในขณะนี้เป็นช่องทางลงคะแนน แต่ยังมีข้อถกเถียงถึงคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์หยั่งเสียง ว่าจะเป็นใครบ้าง ซึ่งผู้ชิงตำแหน่งทั้ง 2 คน ยังมีมุมมองต่างกัน ที่อาจส่งผลต่อผลการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มองว่า ควรเปิดกว้างให้ อดีตสมาชิกเก่าของพรรคทั้ง 2 ล้านคน มีสิทธิ์หยั่งเสียงด้วย ด้วยเหตุผลว่า การขาดการจากเป็นสมาชิก เกิดขึ้นเพราะคำสั่ง คสช.ไม่ใช่ความสมัครใจของสมาชิก
ส่วน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก ที่จะลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค มองว่าควรให้สิทธิ์เฉพาะสมาชิกที่มายืนยันตัวตน 8 หมื่นคน กับสมาชิกใหม่ที่กำลังจะเปิดรับสมัครในสัปดาห์หน้า
นายถวิล ไพรสณฑ์อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้จัดทำร่างข้อบังคับฉบับใหม่ ให้ข้อมูลว่า ร้อยละ 90 ของการหารือ น่าจะเปิดให้สมาชิกเก่าหยั่งเสียงด้วย แต่ผู้ที่ประสงค์ร่วมหยั่งเสียง จะต้องมาลงทะเบียนก่อนเพื่อยืนยันตัวก่อนเช่นเดียวกับการคิดคะแนนการหยั่งเสียง ซึ่งมีข้อถกเถียงระหว่างการนับคะแนน 1 สิทธิ์ 1 เสียง กับ การนับคะแนนแบบอิเล็กทรอรัลโหวต ซึ่งจะคิดคะแนนเป็นสัดส่วน ทั้งหมดนี้นายถวิลยืนยันว่าเป็นเพียงการออกแบบตุ๊กตาคร่าวๆ หลังการตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างผู้ลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคก็ยังสามารถปรับแก้ไขได้
ขณะที่ความเคลื่อนไหวชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เริ่มดุเดือดขึ้น ล่าสุดกลุ่มผู้สนับสนุน นพ.วรงค์ เตรียมเดินสายทาบทามหาผู้สนับสนุน นพ.วรงค์ เพราะต้องการเปลี่ยนแปลงผู้นำพรรค เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจทางการเมือง เพราะหากนายอภิสิทธิ์ ยังเป็นหัวหน้าพรรค การตัดสินทางการเมือง เพื่อร่วมรัฐบาลกับขั้วใดขั้วหนึ่ง อาจทำได้ยาก โดยในสัปดาห์หน้ามีรายงานว่านพ.วรงค์จะเปิดบ้านที่จังหวัดพิษณุโลกให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยเฉพาะ ประเด็นการถูกมองว่า การลงชิงตำแหน่งครั้งนี้มีกลุ่มอดีตแกนนำ กปปส.สนับสนุน
ส่วนการเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จากข้อมูลพบว่าจะเริ่มดำเนินการในสัปดาห์หน้า ซึ่งหนึ่งในผู้ที่เตรียมสมัครสมาชิกพรรค คือ นายสุรบท หลีกภัย หรือ ปลื้ม ลูกชายของ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งยืนยันว่า การตัดสินใจเล่นการเมืองครั้งนี้ เพราะ ตั้งใจเข้าไปช่วยงานด้านการสื่อสารการเมืองกับคนรุ่นใหม่
ส่วนกระแสข่าวอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ทยอยย้ายพรรคจำนวนมาก พบว่า ในพื้นที่ภาคเหนือ กลุ่มสามมิตร เดินสายทาบทามอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ต่อเนื่อง รวมถึงสมาชิกใหม่ที่พรรควางตัวไว้ว่าจะให้ลงสมัครรับเลือกตั้งส่วนหนึ่งก็ถูกดึงตัวไป
ขณะที่ภาคตะวันออก มีอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายคน แจ้งลาออกจากพรรค เช่น นายธวัชชัย อนามพงษ์ อดีต สส.จันทบุรี ไปพรรคพลังประชารัฐ นายประมวล เอมเปีย อดีต สส.ชลบุรี ไปอยู่พรรคภูมิใจไทย
ส่วนนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ อดีตส.ส. พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยระหว่างลงพื้นที่รับฟังปัญหาต่างๆ ของประชาชนในอำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา ว่า พร้อมทำงานการเมืองแล้ว ส่วนจะสังกัดพรรคใดต้องรอเสียงสนับสนุนจากประชาชนก่อน แต่หากจะทำงานให้เกิดประโยชน์ก็จำเป็นต้องเลือกพรรคการเมืองที่เป็นฝ่ายรัฐบาล
ขณะที่ข้อมูลจากแหล่งข่าว ระบุว่า นายบุญจงตัดสินใจย้ายสังกัดไปพรรคพลังประชารัฐ โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในการประชุมใหญ่ของพรรคที่จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้