สมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย กังวลข้าราชการเอื้อประโยชน์กันเอง “คดีซากหมีขอ”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย เผย คดีซากหมีขอกังวลข้าราชการจะเอื้อประโยชน์ให้กัน ด้านรองอธิบดีสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด ชี้ ข้อสังเกตุว่า ทำไมปลัดกับพวกต้องพกปืนไรเฟิลเข้าวัด พร้อมเผยอาจหลุดคดีล่าสัตว์ป่าเพราะยังหาซากสัตว์ป่าไม่เจอ

หลังจากกรณีที่ นายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดป้องกันอำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมกับพวกอีก 10 คน  ถูกจับได้บริเวณใกล้เคียงหน่วยพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติเขาพลูชาย พร้อมรถออฟโรด 6 คัน ในข้อหาลักลอบล่าสัตว์ป่า พร้อมของกลางปืนและกระสุน กับซากหมีขอ

เมื่อวันที่ (8 ต.ค. 61) นายโรเจอร์ โลหะนันท์ เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย เปิดเผยผ่านรายการเป็นเรื่องเป็นข่าวว่า กรณีนี้อาจจะไม่มีอิทธิพลมากมายเหมือนกรณีเสือดำ แต่ปัญหาเดียวคือ ข้าราชการมีส่วนในการเอื้อประโยชน์ให้กัน  โดยการพกปืนไรเฟิล พร้อมเครื่องกระสุน 30 นัด ปืนสั้นขนาด 9 มม. จำนวน 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 40 นัด และเครื่องกระสุนขนาด 5.56 จำนวน 20 นัด มีดอีโต้ 2 เล่ม มีดครัว 3 เล่ม พร้อมเขียง ทำให้รู้ว่ามีเจตนาชัดเจนในการเข้าไปในป่าเพื่อล่าสัตว์ป่า การที่คนมีสีสามารถกระทำอะไรก็ตามที่ชาวบ้านธรรมดาทำไม่ได้ยิ่งทำให้รู้สึกว่าตัวเองภูมิใจทำอะไรได้พิเศษค่านิยมแบบนี้ยังมีอยู่ในสังคมไทย  

ทั้งนี้ สิ่งที่น่าสังเกตุ คือ การสอบสวนยังไม่มีความชำนาญที่ให้ผู้ต้องสงสัยทั้ง 11 คนอยู่ห้องเดียวกันในการสอบ หากเป็นต่างประเทศจะให้ผู้ต้องหาทั้ง 11 คน แยกห้องอยู่เพื่อไม่ให้เกิดการเตี๊ยมกัน  แต่ส่วนตัวคิดว่ากลุ่มคนพวกนี้น่าจะโดนหลายคนดี ทั้งมีอาวุธปืนเข้าในครอบครอง การครอบครองกระบอกเก็บเสียง มีซากสัตว์ป่า และอื่นๆ แต่คงอาจจะไม่โดนคดีล่าสัตว์ป่าเพราะตอนนี้ยังหาซากไม่ได้

นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีสำนักงานชี้ขาดคดีอัยการสูงสุด  กล่าวว่า  การที่ปลัดอำเภอบอกไปซื้อซากสัตว์ต่อจากชาวบ้าน ส่วนตัวคิดว่าการมีซากสัตว์ในครอบครองโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี   แต่สิ่งที่น่าแปลกทำไมต้องเอาปืนไปทำบุญและยังมีที่เก็บเสียงปืนอีก แต่คดีนี้ไม่น่ายากเพราะมีเด็กไปด้วยควรที่จะสอบปากคำเด็กที่ไปด้วยเด็กไม่น่าจะโกหก การที่มีรถออฟโรด 6 คัน มีคนที่ไปด้วยทั้งหมด 11 คน จะต้องมีสักคนที่บอกว่าตัวเองไม่เกี่ยวและต้องบอกได้ว่าใครบ้างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้  พนักงานสอบสวนจะไม่ได้แค่สอบเฉพาะตอนที่เจอจะต้องสอบย้อนกลับไปก่อนเจอซากหมีขอ เพื่อหาข้อมูลและพิสูจน์ความจริงของเรื่องนี้  คดีเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติต้องมีฝ่ายปกครองร่วมสอบสวนด้วย

อย่างไรก็ตาม ข้อหาล่าสัตว์ป่าอาจจะยากเพราะไม่เจอซากสัตว์อย่างอื่น  คดีต่างจากเสือดำตรงที่ว่าตอนนั้นเจอทั้งตัว หนัง ปืน ปลอกกระสุนปืน ซึ่งเป็นคดีที่มีหลักฐานครบที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าล่าสัตว์ป่าจริง

 

ดูคลิปเต็มได้ที่ >> “อัยการ” ชี้ แค่อุ้งเท้าไม่พอ ต้องหา “ตัวหมีขอ” ให้เจอ ถึงเข้าข่ายความผิดล่าสัตว์ป่า!

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ