กลุ่มผู้ชุมนุมในฝรั่งเศสประมาณ 280,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่สวมเสื้อกั๊กสีเหลืองสะท้อนแสงเป็นสัญลักษณ์ กระจายตัวปิดถนนสายต่างๆรวมกว่า 2,000 จุดทั่วประเทศ เพื่อประท้วงราคาขายปลีกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
มีรายงานว่าผู้ประท้วงหญิงคนหนึ่งเสียชีวิต หลังถูกรถบรรทุกพุ่งชน เนื่องจากคนขับรถตกใจที่ถูกกลุ่มผู้ประท้วงเข้าปิดล้อมรถ นอกจากนี้ ยังมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 227 คน ในจำนวนนี้ 7 คนมีอาการสาหัส ขณะที่เจ้าหน้าที่จับกุมตัวผู้ก่อเหตุวุ่นวายได้ทั้งสิ้น 52 คน
สำหรับความไม่พอใจของผู้ใช้รถในฝรั่งเศสเกิดขึ้นจากราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 23 เปอร์เซนต์ในระยะเวลาเพียง 12 เดือน ซึ่งน้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถส่วนใหญ่ในฝรั่งเศส
โดยน้ำมันดีเซลในฝรั่งเศสในขณะนี้มีราคาเฉลี่ยที่ลิตรละ 1.51 ยูโร หรือ 56 บาท นับเป็นระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2000 ซึ่งสวนทางกับราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงมาตลอดในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นเพราะรัฐบาลของประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ปรับขึ้นภาษีน้ำมันเบนซินและดีเซล เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด แต่จนถึงขณะนี้ นายมาครงยังไม่ออกมาแสดงท่าทีใดๆต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งดูเหมือนจะยิ่งเพิ่มโกรธแค้นให้กับผู้ประท้วงมากขึ้น โดยพวกเขาหลายคนเรียกร้องให้นายมาครงลาออก เนื่องจากมองว่า รัฐบาลกำลังทอดทิ้งกลุ่มคนรากหญ้า
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้