ฆาตกรรมย้อนรอย โมเดลคดี “อุเทนฯ – ปทุมวัน”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




อดีตรุ่นพี่ “อุเทนฯ” เผยพฤติกรรม “ฆ่าย้อนรอย” ระบุมีการเก็บเงินซื้ออาวุธรุ่น แนะตั้งสถาบันกลางก่อนแยกเรียน นักวิชาการ แนะตั้งคณะทำงานร่วม ชี้ส่วนใหญ่เป็นไข่ขาวอยากเข้ามามีอนาคต

รายการเป็นเรื่องเป็นข่าวทางสถานีโทรทัศน์ PPTV จัดรายการในตอน  ผ่า! ปมร้าว “อุเทน-ปทุมวัน” โดยมีผู้ร่วมรายการคือ “กฤษ” นักศึกษาเก่าอุเทนถวาย  และ นายชลัท ประเทืองรัตนะ นักวิชาการเชี่ยวชาญสถาบันพระปกเกล้า

นายกฤษเล่าว่ามีการรระดมเงินห้อง ระดมเงินรุ่น โดยมีรุ่นพี่ถือเงิน ทั้งสองสถาบันเหมือนกัน อาจจะเอาเงินมาซื้ออาวุธประจำรุ่น และเอาเงินไปช่วยคดีรุ่นน้องรุ่นพี่ที่ถูกตำรวจจับกุมซึ่งเก็บกันมานานแล้ว   เงินส่วนนี้ต้องถูกบี้เก็บ  ตอนนี้น่าจะหลักร้อยต่อคน

นายกฤษเชื่อว่าการก่อเหตุล่าสุดที่ยิงเด็กอุเทนถวายต่อหน้าแม่ที่กำลังขายราดหน้านั้นเป็นการออกแบบฆาตกรรมย้อนรอยเหมือนที่เพื่อนโดนเป็นการก็อปปี้เอาคืน ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัว  เพราะผู้ที่เสียชีวิตเรื่องตีรันฟันแทงไม่มี  แต่ข่าวคงจะหลุดว่าในพื้นที่ไหนมีเด็กสายก่อสร้างอยู่ เช็คว่าอยู่ที่ไหนจนถึงขั้นวางแผนลงมือ จะเป็นใครก็ได้ที่เขาจับเป้าได้ก่อน  โมเดลนี้เลือกเลยว่าต้องเป็นคนที่ขายของ เพราะคดีที่เด็กปทุมวันโดนก่อนหน้านี้เป็นลักษณะเดียวกัน  

 

“ลักษณะนี้เพิ่งเป็น  ที่คนตกใจคือคดีนี้ไม่ธรรมดา    เขารู้ได้ไงว่าเพื่อที่ถูกยิงตายที่ปทุมธานี เป็นเด็กอุเทนถวายยิง ตำรวจยังจับไม่ได้เลย  เขาอาจจะคิดไปเอง อาจจะมีการข่าวของเขา   มันเป็นระบบของเขาที่ซับซ้อนมากขึ้น แต่ที่แย่ลงคือศีลธรรม ไม่คำนึงถึงความผิดถูก ในอดีตช่างกลปทุมวันจะมีคณะแมคคานิค อุเทนฯจะถือว่าเป็นเด็กเรียน เขาไม่รับทราบเรื่อง ไม่ได้มารับน้องด้วย อุเทนถวายจะไม่แตะเลย   พวกเขาอาจจะดูหนังมากไป มโนมากไป ป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกจับกุม”

 

นายกฤษกล่าวว่าอาจารย์ต้องดูว่าพฤติกรรมขาใหญ่มีใครบ้าง ต้องตัดวงจรนี้ให้ได้ นักเรียนมามาเรียนเกินครึ่งแน่ๆ  แต่ส่วนหนึ่งก็เกมาก่อนพอมาอยู่ตรงนี้ก็เริ่มขยาย  สมัยก่อนนักเรียนจะเกรงครูบาอาจารย์ จะกลัวตำรวจ แต่สองฝั่งตอนนี้จะเคารพอาจารย์ที่ให้ท้าย  อย่าลืมว่าทั้งสองสถาบันจะมีการรับรุ่น รับน้อง  เขาจะมีการคัดเลือกพวกฮาร์ดคอร์ จากนั้นก็ปลุกปั่น

นายกฤษเสนอว่าสิ่งที่ทำได้คือเราต้องมีสถาบันกลางก่อนที่สองสถาบันนี้จะแยกไปอยู่ แล้วทุกปีจะต้องมาเลี้ยงรุ่นที่สถาบันกลาง พวกนี้จะกลายเป็นรุ่นเดียวกัน   หากปิดไปเลยคือการแก้ปลายทาง 

ด้านนายชลัท ซึ่งเคยทำงานวิจัยเรื่องความขัดแย้งของสองสถาบันระบุว่าทั้งสองสถาบันก่อตั้งมาแล้ว80 ปี และกระทบกระทั่งมาอย่างยาวนาน แผลเก่าไม่ทันหายแผลใหม่เข้ามา แผลไม่แห้งสักที  การปิดสถาบันคือการแก้ปัญหาชั่วคราว 

 

นายชลัท กล่าวต่อว่าจากการเข้าไปคุยก็พบว่าเขาไม่พอใจ กังวลและไม่ชอบอีกฝ่าย หากเจอหลบเป็นหลบ เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ไม่ทำเขา เขาก็ทำเรา   ตนก็ไม่แน่ใจความขัดแย้งยกระดับมาเมื่อไหร่ แต่แบบนี้เป็นการตอบโต้การเอาคืน 

“ผมคิดว่าเป็นส่วนน้อย ไข่แดงนี้เป็นส่วนน้อย ไข่ขาวส่วนใหญ่คือเด็กตั้งใจเรียน เขาพยายามทำให้องค์กรตัวเองพัฒนาไป”

นายชลัทเราจะลดความรุนแรงอย่างไร อาจต้องตั้งคณะทำงาน อาจเป็นเด็กอาจเป็นอาจารย์ มาประชุมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง มีกิจกรรมร่วมกัน อะไรจะลดความรุนแรงได้บ้าง  ไข่แดงเป็นส่วนน้อย ไข่ขาวเขาอยากมีอนาคต

 

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ