คดีที่ได้รับความสนใจเมื่อกลางปีที่ผ่านมา กรณีจอดรถกีดขวางหน้าบ้านบริเวณหมู่บ้านเสรีวิลล่า ย่านประเวศ ซึ่งเจ้าของบ้านตัดสินใจใช้ขวานทุบรถ
วันนี้ 26 พ.ย. 2561 ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช โพสต์ข้อความว่าบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ศาลจังหวัดพระโขนง ได้พิจารณาคดีที่พนักงานอัยการ และผู้เสียหาย คือ น.ส.รัตนฉัตร แสงหยกตระการ อายุ 57 ปี และน.ส.มณีรัตน์ แสงภัทรโชติ อายุ 61 ปี ฟ้อง น.ส.รชนีกร เลิศวาสนา จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของรถ ในความผิดฐานจอดรถกีดขวางทางเข้า-ออกอาคารฯ และก่อความเดือดร้อนรำคาญ
ศาลจังหวัดพระโขนง พิพากษาว่า น.ส.รชนีกร ทำความผิดจริงตามฟ้อง โดยวินิจฉัยประเด็นสำคัญ ที่จำเลยอ้างว่าใช้เวลาจอดรถซื้อของเพียง 15 นาที ซึ่งฝ่ายโจทก์เบิกความว่า น.ส.รชนีกร จอดรถขวางหน้าบ้านไม่สามารถนำรถออกได้ จึงบีบแตรใช้เวลานานถึง 30 นาที หากจำเลยจอดรถใช้เวลาไม่นานโจทก์คงไม่นำเสียมและขวานมาทุบกระจกรถของจำเลย จึงเชื่อว่าจำเลยจอดรถขวางใช้เวลาซื้อของตามความประสงค์ของตนเองโดยไม่คำนึงถึงสิทธิของบุคคลอื่น
การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยเล็งเห็นผลต่อโจทก์ร่วมทั้งสองอันเป็นการทำให้โจทก์ร่วมทั้งสองได้รับความเดือดร้อนรำคาญบนถนนสาธารณะ ซึ่งประชาชนชอบที่จะใช้สัญจรได้ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำในที่สาธารณสถาน ทั้งเป็นการจอดรถตรงปากทางเข้าออกของอาคารและในลักษณะกีดขวางการจราจรการ
นอกจากนี้ โจทก์ยังติดประกาศคำพิพากษา คำสั่งของศาลปกครองไว้หน้าบ้าน ซึ่งจำเลยอ้างว่าไม่ได้อ่าน และคิดว่าเป็นบ้านร้างนั้นฟังไม่ขึ้น การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก ต้องระวังโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ส่วนความผิดตาม 397 อันเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทที่หนักที่สุดจำคุก 15 วัน และปรับ 5,000 บาท แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนเห็นควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
ส่วนคดีที่พนักงานอัยการศาลจังหวัดพระโขนง ยื่นฟ้อง "น.ส.มณีรัตน์" และ "น.ส.รัตนฉัตร" เป็นจำเลยที่ 1-2 ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ กรณีใช้ขวานและเหล็กยาวทุบทำลายรถยนต์ของ น.ส.รชนิกร นั้น ที่ผ่านมาศาลเคยนัดไกล่เกลี่ยแล้ว แต่การพูดคุยกันไม่ลงตัว ศาลนัดสืบพยานโจทก์นัดแรกวันที่ 7 มี.ค.ปี2562
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้
