วันนี้ (30 ธ.ค.51) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านที่มารวมตัวกันหน้าสถานีตำรวจภูธรสระยายโสม จังหวัดสุพรรณบุรี ต่างแสดงความเห็นว่า ไม่เชื่อที่ นายฝน คนสติดไม่ดี จะตกเป็นผู้ต้องหาในข้อหา พรากผู้เยาว์ กรณีที่ เด็กชายซูลุยผิว ชาวเมียนมาร์หายเข้าไปในไร่อ้อย แล้วเสียชีวิต และไม่พอใจที่ตำรวจสรุปสำนวนคดีแบบนี้ ส่วนใหญ่เข้าใจว่า นายฝนถูกจับกุมดำเนินคดีแล้ว
ด้าน พันตำรวจเอก รณกร ประคองศรี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสระยายโสม ได้พยายามอธิบายถึง กระบวนการทางกฎหมายว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนชั้นสอบสวน แม้จะมีการแจ้งข้อหานายฝนไปแล้ว แต่ไม่ได้มีการจับกุม ขณะนี้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลนิติจิตเวช สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ อยู่ในความดูแลของจิตแพทย์ และหากชาวบ้านคนใดมีพยานหลักฐาน หรือพร้อมจะเป็นพยานยืนยันว่าวันเกิดเหตุนายฝนอยู่ที่ใด ก็ขอให้มาให้ปากคำกับตำรวจ
นางมาลัย พูนกำลัง หนึ่งในชาวบ้านยืนยันว่า เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา วันเกิดเหตุ ระหว่างเวลา 10.00-12.00 น. นายฝน ที่ตกเป็นผู้ต้องหา ได้มารับประทานก๋วยเตี๋ยวพร้อมกับพระของวัดนันทวัน จึงเชื่อมั่นว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้แน่นอน
ขณะที่หลังผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสระยายโสม และปลัดอำเภออู่ทอง เจรจากับชาวบ้านอยู่นานไม่เป็นผล พลตำรวจตรีคมศักดิ์ สุมังเกษตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เดินทางมาพูดคุยกับชาวบ้านด้วยตนเอง และเปิดโอกาสให้ชาวบ้านซักถามข้อสงสัยเกี่ยวกับคดี เบื้องต้นยืนยันว่า สอบปากคำนายฝนแล้ว
โดยมีนักจิตวิทยาร่วมการสอบสวน นายฝน เปิดเผยว่า เด็กชายซูลุยผิวจมน้ำ และได้ให้นายฝนไปชี้จุดเกิดเหตุ นายฝนพาไปถูกทั้งสองครั้ง โดยในสำนวนคดีไม่ได้ระบุว่านายฝนเป็นคนฆ่าเด็กชายซูลุยผิว เพียงแต่คาดว่านายฝนเป็นพาเด็กไป และเพราะนายฝนเป็นคนสติไม่สมประกอบ ทางตำรวจจึงต้องหาพยานหลักฐานและสอบสวนเพิ่มอย่างละเอียด โดยหลังชี้แจงรายละเอียดแล้ว ผู้ปกครองของนายฝน และชาวบ้านพอใจจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน
