เมื่อวันที่ (1 ม.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประกาศแจ้งเตือนฉบับที่ 5 จากกรมอุตุนิยมวิทยา ยืนยันแล้วว่า “พายุดีเปรสชัน” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างได้ทวีความรุนแรงขึ้นเป็น “พายุโซนร้อนปาบึก” เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดยพายุลูกนี้กำลังเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวน ก่อนจะเข้าสู่ทะเลอ่าวไทยประมาณวันที่ 2-3 มกราคม 2562 และจะขึ้นฝั่งในจังหวัดภาคใต้ของไทย ประมาณวันที่ 3-4 มกราคมนี้ จะทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนัก มีน้ำสะสมเพิ่มขึ้นตามจังหวัดต่างๆจนอาจเกิดน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ และทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ( อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : "พายุปาบึก” มาจากไหน! รู้ไว้ก่อนมาถึงภาคใต้ของไทยคืนนี้ )
จังหวัดทางภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยและอันดามันที่อาจจะได้รับผลกระทบจาก “พายุโซนร้อนปาบึก” คือ ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช เพชรบุรี พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง สตูล ระนอง พังงา ภูเก็ต โดยฝั่งอ่าวไทย จะได้รับผลกระทบก่อน
นายภูเวียง ประคำมินทร์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เผยว่าหากสภาพอากาศในไทยมีความเย็นอยู่ก็อาจจะทำให้พายุโซนร้อนลูกนี้อ่อนกำลังลงได้ แต่ก็ยังคงเป็นดีเปรสชั่น จึงแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่
ผลกระทบจาก “พายุโซนร้อนปาบึก” จะทำให้ทะเลฝั่งอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนฝั่งอันดามันอาจสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ทะเลเฝ้าระวังอันตรายจากลมและคลื่นที่พัดเข้าฝั่ง ส่วนชาวประมงขอให้งดออกเรือในช่วงสัปดาห์นี้ถึงวันที่ 5 มกราคม
ด้าน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยของการปฏิบัติงานในพื้นที่ปฏิบัติงานนอกชายฝั่งเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวแล้ว เนื่องจากสถานการณ์มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการปฏิบัติงานของพนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง ปตท.สผ. จึงได้ส่งพนักงานและผู้รับเหมาบางส่วนที่ไม่สามารถปฏิบัติงานเนื่องด้วยสภาพอากาศดังกล่าวกลับขึ้นฝั่งที่จังหวัดสงขลา ระงับการเดินทางไปยังฐานปฏิบัติการนอกชายฝั่ง ระงับกิจกรรมการสำรวจและการซ่อมบำรุงไว้ชั่วคราว เคลื่อนย้ายแท่นเจาะและเรือสนับสนุนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบออกจากบริเวณพายุดีเปรสชันตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2561 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์พายุดังกล่าวยังไม่ส่งผลกระทบกับการผลิตก๊าซฯ ปตท.สผ. ยังคงดำเนินการผลิตก๊าซฯ จากแหล่งต่างๆ ของ ปตท.สผ. เพื่อเป็นพลังงานให้กับประเทศ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง หากมีความคืบหน้า ปตท.สผ. จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ปตท.สผ. มีความห่วงใยในสวัสดิภาพของพนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง ภารกิจเร่งด่วนขณะนี้คือการดำเนินการอย่างสุดความสามารถเพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนปลอดภัย ทั้งนี้ ปตท.สผ. ได้เตรียมพร้อมแผนฉุกเฉินตามมาตรฐานสากลทั้งเชิงรุกและเชิงรับอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่ามีความพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ