วันนี้ 8 ม.ค. 2561 ผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) พร้อมด้วยสภาวิศวกร และสำนักงานควบคุมอาคารการโยธาธิการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารที่กำลังรื้อถอนบริเวณ ปากซอยรามคำแหง 51/2 ที่เกิดเหตุชิ้นส่วนอาคาร แผงกั้นการรื้อถอนล้มใส่คนได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ขณะนี้ยังกันพื้นที่เกิดเหตุไม่ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไป
ส่วนอาคารข้างเคียงซึ่งเป็นธนาคารออมสินสาขาหัวหมาก ถูกสั่งระงับห้ามใช้อาคารเช่นกันเนื่องจากได้รับผลกระทบบริเวณชั้น 2 พบรอยร้าว เจ้าหน้าที่ธนาคารต้องขนอุปกรณ์ออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
นายนพดล ฉายปัญญา ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมอาคารการโยธาธิการกรุงเทพมหานคร ระบุว่า เขตบางกะปิ เคยมีคำสั่งระงับการรื้อถอนเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นสถานที่สาธารณะมีประชาชนสัญจรไปจำนวนมาก ประกอบกับมีผู้ร้องเรียนว่ามีเศษวัสดุจากการรื้อถอนตกลงมา เมื่อมาตรวจสอบพบว่าแผงกั้นที่ป้องกันวัสดุตกหล่นไม่เป็นไปตามแผนที่ยื่นกับสำนักงานเขตเคยมีคำสั่งให้แก้ไขแต่เรื่องก็เงียบกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ด้าน เลขาธิการสภาวิศวกร ระบุว่า การรื้ออาคารจะต้องออกแบบแผนจะต้องมีวิศวกรที่มีใบอนุญาตควบคุมงานตลอดการรื้อถอน ซึ่งขณะนี้จะต้องประสานกรมโยธาเพื่อขอข้อมูลมาตรวจสอบ รวมถึงเรียกผู้เกี่ยวข้องของบริษัทที่ทำการรื้อถอนมาสอบถามรายละเอียดว่าเป็นไปตามขั้นตอนหรือไม่ ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ระบุว่าใครเป็นคนผิด ซึ่งคาดว่าใช้เวลา 3 เดือนในการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยหากพบว่าเข้าข่ายความผิดก็จะเพิกถอนใบอนุญาตวิศกรรมทันที
ส่วนประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ บอกว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ เคยมีชิ้นส่วนของอาคารดังกล่าวหล่นลงมาแล้ว หลายครั้ง
ขณะที่ ความคืบหน้าคดี พ.ต.อ. ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก ระบุว่า ได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 3-4 คน ส่วนข้อกล่าวหานั้นจะต้องรอให้สำนักงานโยธา ระบุสาเหตุว่าเกิดจากความประมาทของผู้รับเหมาหรือไม่ แต่ในเบื้องต้นผู้บาดเจ็บสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> //www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้
