เมื่อวันที่ (9 ม.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่บริเวณหน่วยเฉพาะกิจสงขลา ในอ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งเป็นจุดที่ถูกวางระเบิดคาร์บอมบ์ จนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 6 นาย เมื่อวานนี้ ยังถูกปิดกั้นไว้เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติม
ส่วนการติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุที่ฆ่าแขวนคอ นายอมตะ สโมทานทวี อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการครูในบ้านพัก ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย เพื่อชิงรถกระบะไปประกอบเป็นคาร์บอมบ์นั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งหาเบาะแส โดยมีรายงานว่าตลอดคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สอบสวนผู้ต้องสงสัยแล้ว 3 คน ซึ่งปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ให้การที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับเครือข่ายของแนวร่วมในพื้นที่ อ.เทพา และ อ.สะบ้าย้อย
การสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คน ทำหน้าที่ดูความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่และชี้เป้า โดยแบ่งการทำงานเป็น 2 ทีม ไม่ต่ำกว่า 10 คน คือ ทีมฆ่าชิงรถและทีมรับรถมาประกอบระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมปิดล้อมตรวจค้นจับกุมผู้ต้องสงสัยอีกคนหนึ่ง ที่เชื่อว่าเป็นคนนำรถมาวางระเบิด ส่วนเบาะแสเกี่ยวกับกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่า ผู้ก่อเหตุขับรถมาวางระเบิดนั้นยังไม่พบรถกระบะคันดังกล่าว คาดว่าคนร้ายศึกษาเส้นทางมาเป็นอย่างดีและใช้เส้นทางเลี่ยงเมืองลัดเลาะมาตามสายรองหรือถนนในหมู่บ้านเพื่อก่อเหตุ
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า เหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น รัฐบาลขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่พร้อมดูแลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตตามกระบวนการ
นอกจากนี้ ทางรองนายกรัฐมนตรี ยังมั่นใจว่าเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น จะไม่กระทบกับวงพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะกลุ่มบีอาร์เอ็นไม่ได้เข้าร่วมด้วย
ส่วนที่จังหวัดยะลา พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เดินทางเยี่ยมอาการของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคาร์บอมบ์ ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสิริรัตนรักษ์ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า อ.เมืองยะลา โดยกำชับให้ดูแลผู้บาดเจ็บอย่างใกล้ชิด
โดยทุกคนมีบาดแผลฉีกขาดจากแรงระเบิด แต่ไม่สาหัส คาดว่าจะต้องพักรักษาตัวอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก็สามารถกลับบ้านได้ ส่วน ร.ต.อ.หญิง สินีนาถ คงพุทธ หรือ ผู้กองจอย สังกัดตำรวจตระเวนชายแดนที่ 42 ช่วยราชการหมวดพยาบาล เฉพาะกิจสงขลา หนึ่งในผู้บาดเจ็บ ได้ขอบคุณทุกกำลังใจที่ได้ส่งมาให้ พร้อมย้ำว่าอาการบาดเจ็บครั้งนี้ไม่ได้รุนแรง แต่ได้เรียนรู้บทเรียน หลังจากนี้จะเพิ่มความระมัดระวังในการออกปฏิบัติหน้าที่และมีสติมากขึ้น