วันนี้ (30 ม.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กราฟคุณภาพอากาศจากเว็บไซต์ air4thai ของกรมควบคุมมลพิษ แสดงค่ามลพิษของสถานี 27t ริมถนนคู่ขนานพระราม 2 อำเภอเมืองสมุทรสาคร เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา ย้อนหลังไป 7 วัน คือตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม จนถึงวันนี้ พบ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรไปอยู่ที่ 70-142 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เฉลี่ย 7 วันอยู่ที่ 98.42 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ตอน 9.00 น. ค่า PM2.5 พุ่งไปถึง 145 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) กทม.-ปริมณฑล ฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานทุกพื้นที่ - พระราม 2 วิกฤตสุด พุ่งถึง 141
โดยช่วงเช้าวันนี้ี่ ค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงขึ้นไปถึง 139 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เมื่อเวลา 05.00 น. จากนั้นเมื่อเวลา 07.00 น. ก็ขยับขึ้นไปถึง 141 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จัดอยู่ในโซนสีแดง คือ มีผลกระทบต่อสุขภาพ เป็นวันที่ 3 ในรอบสัปดาห์ และค่าฝุ่น PM2.5 ในจุดตรวจวัดนี้ พบว่า เกินค่ามาตรฐานต่อเนื่องมาแล้วมากกว่า 7 วัน
ขณะที่แม้ค่าเฉลี่ย 7 วันจะเกินเกณฑ์มาตรฐานอยู่ในโซนสีส้ม คือ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ สลับกับโซนสีแดง คือ มีผลต่อสุขภาพ แต่หากเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานกับองค์การอนามัยโลกที่กำหนดค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของ PM2.5 ไว้ที่ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แล้ว จะพบว่า ค่าเฉลี่ยฝุ่น PM2.5 ในรอบ 7 วัน จากจุดตรวจวัดแห่งนี้มีค่าเกินมาตรฐานขององค์การอนามัยโลกไปเกือบ 4 เท่า
ทั้งนี้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จังหวัดสมุทรสาคร ได้เรียกประชุมหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อหาต้นเหตุของฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าในช่วงกลางคืนและช่วงเช้าจะมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงกว่าในช่วงกลางวัน และจากการตรวจรถควันดำก็พบว่ามีไม่มาก จังหวัดสมุทรสาคร จึงให้ความสนใจในประเด็นของโรงงาน เพราะช่วงกลางคืนมีรถน้อยแต่ค่าฝุ่นกลับมีปริมาณสูง จึงสั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัดตั้งชุดตรวจโรงงานเฉพาะกิจ เพื่อตรวจดูกระบวนการเผาไหม้ของโรงงานอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะก่อให้เกิดฝุ่นละอองอย่างเร่งด่วน ส่วนมาตรการอื่น ๆ เช่น การล้างถนน ฉีดพ่นละอองน้ำ ควบคุมพื้นที่ก่อสร้าง และตรวจจับรถควันดำ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปควบคุมดูแลอย่างต่อเนื่อง
ด้าน นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดสมุทรสาครได้ร่วมมือกับหน่วยราชการและเอกชน เร่งหาทางแก้ไขฝุ่นละออง PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง และได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครประชุมวางแผนเพื่อเข้าสุ่มตรวจโรงงานอุตสาหกรรมในเขตจังหวัดสมุทรสาครที่สุ่มเสี่ยงก่อให้เกิดมลพิษในอากาศ เพื่อที่จะช่วยแก้ปัญหาของการเกิดฝุ่นละออง PM 2.5 ร่วมกับมาตรการอื่น ๆ หากยังไม่เป็นผลที่น่าพอใจก็จะรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขให้เป็นผล เพราะมีข้อกฎหมายบางอย่างที่ทางจังหวัดไม่สามารถดำเนินการเองได้
ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าต่อว่า ขอให้ประชาชนที่อาศัยในเขตสุ่มเสี่ยงและนักเรียนที่ต้องทำกิจกรรมในที่โล่งแจ้งควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อเป็นการป้องกันฝุ่นละออง และในเขตจังหวัดสมุทรสาครได้มีรถโมบายตรวจวัดค่ามลพิษทางอากาศตลอดเวลา และหน่วยวัดค่าฝุ่นละอองอีกจำนวน 2 จุดที่ริมถนนพระรามที่ 2 และริมถนนเพชรเกษม โดยจะประเมินสถานการณ์ตลอด ถ้าหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วันนี้ จะได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้บริหากสถานการศึกษามาร่มประชุมเพื่อหาแนวทางและอาจจะต้องปิดการเรียนการสอนในบางจุดเพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพของนักเรียนต่อไป (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : อ.จุฬาฯ เตือนพิษจากแคดเมียม ในฝุ่น PM 2.5 เสี่ยงเป็น “โรคอิไตอิไต”)
