นิตยสาร ฟอร์บส์ และ ดิ อิโคโนมิสต์ ซึ่งเป็นสื่อเชิงธุรกิจชั้นนำของโลก ประกาศว่า ปี 2019 น่าจะเป็นปีแห่งอาหารมังสวิรัติ และอาหารวีแกน (Vegan) โดยตลอดเดือนมกราคมที่ผ่านมา พบว่า 54% ของคนในสังคมออนไลน์ต่างโพสต์ข้อความหรือเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารมังสวิรัติทั้งนั้น
ความใส่ใจดูแลสุขภาพ รวมถึงกระแสหลีกเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์มากเกินไปเพราะไม่ต้องการเบียดเบียนสัตว์ และกลัวโรคภัยถามหา ได้ทำให้อาหารที่มีพืชผักเป็นหลัก กลายเป็นเทรนด์ฮิตแห่งปี มาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว และคาดว่า จะมาแรงต่อเนื่องอีกในปีนี้ โดยอาหารมังสวิรัติมียอดขายกว่า 2,000 ล้านรายการ มียอดเติบโตทั่วไปกว่าร้อยละ 8 และร้อยละ 17 ในจีน ขณะที่ร้านอาหารแบบออแกนิก และร้านอาหารแบบวีแกน ก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด และเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งในอังกฤษ สหรัฐฯ และอีกหลายประเทศทั่วโลก
สำหรับความแตกต่างระหว่างมังสวิรัติ (Vegetarian) และวีแกน (Vegan) คือ คนที่กินมังสวิรัติจะไม่กินเนื้อสัตว์ทุกชนิด แต่สามารถกินนม ไข่ และอาหารที่อาจเป็นผลิตภัณฑ์จากสัตว์ได้ เช่น ชีส น้ำผึ้ง แต่วีแกน เป็นสายมังสวิรัติที่เคร่งครัดกว่า คือ นอกจากจะไม่กินเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์แล้ว ยังจะไม่สวมใส่เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า และใช้เครื่องสําอางที่ทํามาจากสัตว์ หรือทดลองจากสัตว์อีกด้วย