ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศทั้งสองเวที มีผู้สนับสนุนเดินทางมาให้กำลังใจ และแต่ละพรรคชูนโยบายปากท้อง เช่น พรรคเพื่อไทย เพิ่มมูลค่าราคาสินค้าทางการเกษตร ทั้งราคาข้าวและยางพารา ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ชูนโยบายสานต่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และที่น่าสนใจการตั้งเวทีวันนี้ 13 มี.ค. 2562 คือ ทั้ง 2 พรรค เวทีปราศรัย ห่างกันไม่ถึง 50 เมตร
เวทีแรก เป็นเวทีจากพรรคเพื่อไทย ที่จัดการปราศรัยบริเวณสวนศรีโคตรบูรณ์ โดยวันนี้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ขึ้นเป็นแกนนำเพื่อสนับสนุนผู้สมัครพรรคในพื้นที่ ซึ่งมีประชาชน และกลุ่มผู้สนับสนุนเดินทางมาให้กำลังใจ
ระหว่างการขึ้นเวที คุณหญิงสุดารัตน์ แสดงความมั่นใจ ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะสามารถกวาดที่นั่งได้ยกจังหวัด และหากได้รับการคดีเลือกจนสามารถจัดตั้งเป็นรัฐบาลจะพัฒนาเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะมูลค่าสินค้าทางการเกษตร เช่นข้าว และยางพารา
ห่างจากเวทีพรรคเพื่อไทย 50 เมตร มีเวทีปราศรัยจากพรรคพลังประชารัฐ ที่ใช้ลานอเนกประสงค์ วิทยาลัยธาตุพนม เป็นสถานที่ตั้งเวที เช่นกัน ทำให้เสียงการปราศรัยแต่ละเวที มีเสียงของเวทีฝั่งตรงข้ามเข้ามาแทรกในระหว่างการปราศรัยต่อเนื่อง
สำหรับเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ บรรยากาศคึกคักไม่แพ้กัน เนื่องจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน เดินทางไปด้วยตัวเอง นายสุริยะ ขึ้นบนเวที พูดคุยกับประชาชนว่า เคยลงพื้นที่หาเสียงกับนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อ 20 ปีที่แล้ว พบปัญหาหนี้สินและรายได้น้อย เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงปัจจุบันปัญหาหนี้ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ จึงขอโอกาสให้พรรคพลังประชารัฐ แก้ไข โดยเชื่อว่า นโยบายสานต่อ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พักหนี้เกษตรกร 3 ปี จะสามารถทำให้ปัญหาหนี้สิน และรายได้น้อยที่ประสบอยู่ ลดลงพร้อมแสดงความมั่นใจ สามาถกวาดที่จ.นครพนมได้ยกจังหวัดด้วยเช่นกัน
สำหรับจ.นครพนม เดิมมี 5 เขตเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งครั้งนี้เหลือ 4 เขต ซึ่งปี 2554 พรรคเพื่อไทยสามารถกาดที่นั่งได้แบบยกจังหวัด
“พลังประชารัฐ” ลั่น ไม่ร่วมพรรค ไม่เคารพประเพณีปฏิบัติคนไทย
"เฉลิม"ปูดตัวเลขส.ส. พรรคพปชร.ต่ำร้อย อีสานบนไร้เก้าอี้