“วิษณุ” เผย พระราชพิธีบรมราชาภิเษกพร้อมแล้ว 90 %
สมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้า จัดการปาฐกถาพิเศษ “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ความรู้ที่ปวงชนชาวไทยควรทราบ” โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ขึ้นกล่าวปาฐกถา เน้นย้ำ หัวใจของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก คือ พิธีสรงมุรธาภิเษก - พิธีรับน้ำอภิเษก – และการรับพระมหาพิชัยมงกุฎมาทรงสวม ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2562
ในการกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ความรู้ที่ปวงชนชาวไทยควรทราบ” โดย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ สมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้า จัดขึ้น
นายวิษณุ ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายพิธีการ กล่าวถึงความพร้อมของพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในระหว่างวันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562 ว่า ขณะนี้การเตรียมงาน พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เรียบร้อยแล้ว 80-90 % ส่วนที่เหลือคือการซักซ้อมและรายละเอียดเล็กน้อย
รัฐบาลชวนประชาชนแต่งเสื้อเหลือง ร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
6 เม.ย.62 ขออนุญาตรุกขเทวดา ทำพิธี “พลีกรรมตักน้ำ”
นายวิษณุ กล่าวว่า ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นการปฏิบัติตามธรรมเนียมโบราณราชประเพณี รับอิทธิพลจากพราหมณ์ และมีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา แต่พิธีการต้องมี “น้ำ” เข้ามามีส่วนร่วม สำหรับ 3 ขั้นตอน สำคัญ คือ หนึ่ง- พิธีสรงพระมุรธาภิเษก คือ การอาบน้ำตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าด้วยน้ำศักดิ์สิทธิ์ สอง – พิธีรับน้ำอภิเษก หรือ การรดน้ำที่พระหัตถ์ โดยเป็นน้ำที่มาจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ 76 จังหวัด และน้ำศักดิ์สิทธิ์จากหอศาสตราคม ในพระบรมมหาราชวัง 1 แหล่งน้ำ เสมือนแทนการรับอำนาจจากประชาชนทั่วประเทศ ขั้นตอนที่ 3 คือ การทรงรับ “พระมหาพิชัยมงกุฎ” เป็นหนึ่งในเครื่องราชกกุธภัณฑ์ หรือ เครื่องหมายแห่งความเป็นพระมหากษัตริย์
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชโองการ ให้ตั้งการพระราชพิธี บรมราชาภิเษก 4-6 พ.ค.62
ความพิเศษ“คนโทน้ำอภิเษก-ขันน้ำสาคร”
โดย 3 ขั้นตอนนี้ ถือเป็น หัวใจของ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยจะเกิดขึ้นในวันที่ 4 พฤษภาคม 2562 ในเวลา 10 นาฬิกา -12 นาฬิกา ตามพระฤกษ์
นอกจานี้ หนึ่งความสำคัญของ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกในแบบพราหมณ์ คือ การดึงเทพเจ้า เทวดา ลงมาคุ้มครอง และสถิตในพระมหากษัตริย์ จึงถือเป็นการป่าวประกาศให้เทวดารู้ว่า มีพระผู้เป็นเจ้าเกิดขึ้นอีกพระองค์แล้ว ซึ่งเป็นการเป่าพระกาศให้เทวดารู้ 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน รู้ว่ามีพระมหากษัตย์พระองค์ใหม่เกิดขึ้นแล้ว รวมถึง การขานพระนาม ก็จะเปลี่ยนเป็น “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” แทน “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
ติดตามข่าวพระราชพิธีบรมราชาภิเษกได้ที่นี่ >> www.pptvhd36.com/พระราชพิธีบรมราชาภิเษก