เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 3 องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ออกแถลงการณ์ วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก ประกอบด้วย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์
องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประกาศให้วันที่ 3 พฤษภาคมของทุกปี เป็น “วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก” เพื่อตอกย้ำเจตนารมณ์และหลักการที่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของเสรีภาพสื่อมวลชน เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนมืออาชีพได้นำเสนอข้อเท็จจริงโดยเสรีภาพและปลอดภัย
6 องค์กรวิชาชีพสื่อ วอน รัฐบาล อย่าลิดรอนเสรีภาพสื่อ ใช้สื่อสร้างความเกลียดชัง
สมาคมนักข่าวฯ ล่ารายชื่อต้านกฎหมายคุมสื่อ
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ยืนหยัดสนับสนุนหลักการดังกล่าว ต้องการเห็นสื่อมวลชนทุกแขนงยึดมั่นและตระหนักถึงคุณค่าเสรีภาพ ภายใต้หลักจริยธรรมแห่งวิชาชีพ เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารรอบด้านที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะในปีนี้วันเสรีภาพสื่อมวลชนโลกครบรอบ 30 ปี ตรงกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และกลุ่มมวลชนทางการเมืองเคลื่อนไหวต่อสู้กันรุนแรงทุกมิติ กลายเป็นสมรภูมิขับเคี่ยวทางความคิดระหว่างวัฒนธรรมเก่ากับวัฒนธรรมใหม่
ขณะเดียวกันสถานการณ์ด้านเสรีภาพของสื่อมวลชนไทย อยู่ภายใต้พระราชกำหนดการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 หรือพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งประกาศใช้สำหรับควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 สุ่มเสี่ยงถูกอำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซง คุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ บัญญัติให้การรับรองเสรีภาพในการเสนอข่าวสาร การแสดงความคิดเห็นของสื่อมวลชน อำนาจรัฐควรปล่อยให้เกิดการไหลเวียนของข้อมูลข่าวสาร ดูแลความปลอดภัยการทำงานสื่อมวลชนที่เข้าไปรายงานในพื้นที่ชุมนุม และสื่อมวลชนไม่ควรตกเป็นเป้าของมวลชนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะไม่ใช่เป็นคู่ขัดแย้ง
ในโอกาสวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ มีข้อเสนอต่อฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังนี้
1.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและฝ่ายคู่ขัดแย้งแต่ละฝ่าย เปิดพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการทำงานของสื่อมวลชน โดยต้องหยุดใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ เพราะเสรีภาพสื่อคือเสรีภาพของประชาชน
2.ขอเรียกร้องให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะข่าวปลอม (Fake News) และควรใช้สิทธิในการตรวจสอบสื่อมวลชนควบคู่ไปด้วย
3.ขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนแขนงต่างๆ ทำหน้าที่รายงานถึงสาเหตุของปัญหา นำเสนอทางออก หลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำยั่วยุให้เกิดความเกลียดชัง ตามหลักเสรีภาพบนความรับผิดชอบ ภายใต้กรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพ และขอเป็นกำลังใจให้สื่อมวลชนที่ทำหน้าที่ในพื้นที่ความขัดแย้ง และพื้นที่ความเสี่ยงการแพร่ระบาดโควิด-19
4.องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ขอยืนยันว่าเสรีภาพของสื่อมวลชนเป็นอีกเสาหลักหนึ่งของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การกระทำที่ทุกฝ่ายที่ละเมิดต่อเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนและสื่อมวลชน เป็นสิ่งที่องค์กรวิชาชีพไม่อาจยอมรับได้ และจะต่อสู้เรียกร้องจนถึงที่สุด
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
นักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์
3 พฤษภาคม 2564