ภาพภายในวัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ 3 ได้เสริมบังเกอร์กั้นริมแม่น้ำขึ้นอีก 50 เซนติเมตร ยาว 150 เมตร จากเดิมที่ตั้งพนังมีความสูง 2 เมตร รวมความสูง 2 เมตร 50 เซนติเมตร ซึ่งทำให้บังเกอร์อยู่สูงกว่าระดับน้ำในขณะนี้ 1 เมตร 10 เซนติเมตร.นอกจากนี้ยังได้เสริมแนวกระสอบทรายฝั่งตะวันตกเพิ่มเติม เพราะจุดนี้ ปี 2554 กำแพงได้พังทลายลง ทำให้น้ำเข้าท่วมโบราณสถานเสียหาย
ด่วน! เตือน "กทม. - นนท์ - ปทุม" ริมเจ้าพระยา เจอ 2 ปัจจัยบวก น้ำขึ้น 30-50 ซม. 7 ต.ค.รับมือ
ธรรมนัส ลุยช่วยน้ำท่วม "ห้ามบอกว่าเป็นใคร"
ปัจจุบัน ทางกรมศิลปากรได้สร้างกำแพงปูนหนา 20 เซนติเมตร สามารถวางกระสอบทรายได้เพิ่มอย่างต่อเนื่องหากระดับน้ำเพิ่มขึ้น
ขณะที่ นายวีระชัย นาคมาศ (นาค-คะ-มาด) ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระบุว่า จังหวัดฯ ได้รับรายงานจากชลประทานที่ 12 แจ้งว่าเขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำที่ 2,700 กว่าลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และในช่วงนี้คงต้องเร่งระบายน้ำมวลน้ำก้อนนี้ออกไปก่อน และมวลน้ำทางเหนือกำลังทยอยมาจากเขตสุโขทัย พิษณุโลก แพร่ น่าน เข้าทุ่ง และจะวนกลับมาอยุธยา ส่งผลกระทบให้ปริมาณน้ำในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าดำเนินการป้องกันสถานที่สำคัญ และให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มความสามารถ
ด้านกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ หรือ กอนช.ประกาศเตือน พื้นที่ติดริมแม่น้ำ จังหวัดกรุงเทพมหานคร ปทุมธานี และนนทบุรี เฝ้าระวังระดับแม่น้ำเจ้าพระยา วันที่ 7-10 ตุลาคมนี้
ทั้งนี้เนื่องมาจาก ปริมาณน้ำที่ไหลหลากรวมกันผ่าน อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันนี้ อยู่ที่ 3,050 - 3,150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจะไหลออกอ่าวไทย ช่วงวันที่ 7-10 ตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่สภาวะน้ำทะเลหนุนสูง จึงคาดว่าจะส่งผลให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 30-50 เซนติเมตร
ทั้งนี้สำหรับกรุงเทพมหานคร ที่พื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบให้ระดับน้ำล้นคันป้องกันน้ำริมแม่น้ำของกรุงเทพมหานคร ยกเว้นบริเวณที่ไม่มีระบบคันป้องกันริมแม่น้ำ
เช่นเดียวกันพ้นที่จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี ที่ต้องเฝ้าระวัง พื้นที่ลุ่มต่ำ นอกแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
นาทีชีวิตช่วยคนขับรถจักรยานยนต์ถูกกระแสน้ำซัดตกคลอง
ธรรมนัส ลุยช่วยน้ำท่วม "ห้ามบอกว่าเป็นใคร"