วันนี้ 13 พ.ย. 2564 ทีมข่าวพีพีทีวี ได้บันทึกภาพวิดีโอขณะที่กำลังยืนคุยข้อมูลกับแม่ค้าหมูปิ้งในซอยพิพัฒน์ 2 แต่อยู่ดีๆชายเร่ร่อน ก็เดินปรี่เข้ามาหาพยายามจะขอเงิน จนแม่ค้าหมูปิ้งต้องยกท่อนไม้ที่วางไว้ข้างๆร้านเพื่อขู่ให้ชายเร่ร่อนคนนี้ถอยห่าง โดยพฤติกรรมชายเร่รอนมักเข้ามารีดไถเงินชาวบ้านแถวนี้เป็นประจำหลายเดือนแล้ว ซึ่งชาวบ้านมักเรียกชายเร่ร่อนคนนี้ว่า “นายจอน”เพราะสร้างความเดือนร้อนรำคาญให้กับคนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
ชาวบ้านผวา คนเร่ร่อนขอเงินเมาอาละวาด
คนเร่ร่อน ล่ามหมาขอทาน อ้างทำเพื่อจ่ายส่วย
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางเตือนจิตร พลวัล แม่ค้าขายหมูปิ้ง เล่าว่า พบเห็นนายจอนมานานหลายปีแล้ว ซึ่งในช่วงแรกๆไม่เป็นแบบนี้ แต่ช่วงหลังประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา นายจอนเริ่มมีพฤติกรรมสร้างความรำคาญ ตั้งแต่จู่โจมผู้หญิงโดยเฉพาะสาวออฟฟิต เพื่อขอเงินไปซื้อเหล้าขาว เมื่อดื่มแล้วเมาไม่มีสติ พูดไม่รู้เรื่อง บางครั้งก็อาละวาดโดยเฉพาะในช่วง 3-4 วันมานี้ เริ่มหนักขึ้นถึงขั้นปาขวดกลางถนน
เธอยอมรับว่ารู้สึกกลัว และกังวลกับพฤติกรรมแบบนี้ของนายจอน ทำให้ช่วงนี้ที่ต้องออกมาขายหมูปิ้ง จึงต้องเตรียมท่อนไม้วางไว้ข้างๆร้านเพื่อป้องกันตัว หากนายจอนเข้ามาใกล้ๆก็จะยกไม้ขึ้นมาข่มขู่ แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรรุนแรงเพราะตนเองก็กลัวว่าจะถูกทำร้ายเหมือนกัน
สำหรับพฤติกรรมของนายจอน นางเตือนใจ วงศ์พร้อมเจริญ คณะกรรมการชุมชนพิพัฒน์ 2 ให้ข้อมูลว่า นอกจากจะชอบจู่โจ่มขอเงินผู้หญิงครั้งละ 10 – 20 บาท เมื่อได้เงินแล้ว ก็จะนำไปซื้อเหล้าขาว และเมื่อเมาจนไม่ได้สติบางครั้งก็จะชอบอาละวาด ชอบโชว์ของสงวนหรือของลับ กระทำอนาจารในที่สาธารณะ
นอกจากนี้ชาวบ้านยังระบุว่า เมื่อช่วงปีที่แล้ว นายจอนเคยก่อเหตุพยายามจะข่มขืนเด็กหญิงชาวลาวแต่ไม่สำเร็จ จนแม่ของเด็กหญิงต้องพากันย้ายหนีออกจากชุมชน
สิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากที่สุดในขณะนี้ คืออยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาดูแลช่วยเหลืออย่างจริงจัง เพราะเมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้เข้ามาพาตัวไปส่งโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยาแล้ว แต่แพทย์วินิจฉัยว่า ไม่เข้าข่ายเป็นผู้ป่วยจิตเวช เนื่องจากยังพูดคุยได้จึงต้องกลับมาอยู่ที่เดิม พร้อมแนะนำให้พาตัวไปบำบัดอาหารติดเหล้า ทั้งนี้ยืนยันว่า ชาวบ้านไม่เคยรังเกียจ แถมรู้สึกสงสารด้วยซ้ำ แต่ขอให้นำตัวนายจอนไปบำบัดจนหายเป็นปกติก่อน
ทีมข่าวพยายามพูดคุยกับนายจอน ซึ่งยังพูดจาตอบโต้รู้เรื่อง เขาเล่าว่า ซอยพิพัฒน์ 2 เป็นบ้านเกิดของเขา แต่ตอนนี้พ่อแม่เสียชีวิตไปแล้ว เหลือเขาอยู่เพียงลำพังคนเดียว และที่ต้องมาเป็นคนเร่ร่อนเพราะถูกไล่ออกจากห้องเช่าหลังตกงานมานาน
พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการพยายามข่มขืนเด็กชาวลาว แต่ยืนยันว่า เคยเดินขอเงินผู้หญิงเพื่อนำมาซื้อเหล้าจริง ซึ่งแต่ละวันจะดื่มเหล้าขาว วันละประมาณ 2 ขวดใหญ่ แต่หากเป็นขวดเล็กก็จะดื่มวันละ 4 ขวด และเมื่อถามว่าหากเจ้าหน้าที่จะมารับตัวไปบำบัดอาการติดเหล้า จะไปหรือไม่ นายจอนบอกว่าไม่ไปและจะขออยู่ที่เดิม เพราะที่นี่คือบ้านเกิดของเขา
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพมหานคร กระทรวง พม. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ แต่ไม่พบตัวนายจอน เนื่องจากถูกตำรวจนำตัวไปที่โรงพัก สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งนายจอน อยู่ในสภาพนอนหลับภายในห้องคุมขัง เนื่องจากดื่มเหล้าหนักจนหลับไป
เบื้องต้น นางฐาปนีย์ ศิริสมบูรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งกรุงเทพมหานคร ระบุว่า ในสัปดาห์หน้าจะต้องนัดทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ญาติของนายจอน ตัวแทนชุมชน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อหาแนวทางการบำบัดอาการติดเหล้าของนายจอน แต่ยังไม่สามารถรับตัวนายจอนไปดูแลได้ เนื่องจากเจ้าตัวไม่ยินยอม และหน่วยงาน พม.ไม่สามารถบังคับได้ โดยระหว่างนี้จำเป็นที่จะต้องให้ตำรวจ และชาวบ้านช่วยกันสอดส่องดูแลกันเองเป็นการชั่วคราว เพื่อไม่ให้ก่อความเดือดร้อนรำคาญต่อประชาชน