สถานการณ์น้ำที่อุบลราชธานียังวิกฤต ถนนหลายเส้นทางถูกตัดขาด ไม่สามารถใช้สัญจรได้ ขณะที่ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้อนอย่างต่อเนื่องจนมิดหลังคาบ้าน ไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ถือว่ารุนแรงสุดในรอบ 44 ปี
ภาพจากเฮลิคอปเตอร์หน่วยบินกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขึ้นบินสำรวจพื้นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี และ อำเภอวารินชำราบ พบว่าถนนที่เชื่อมระหว่างอำเภอ ทั้ง 3 เส้นทาง ถูกน้ำท่วมสูงจนต้องปิดการจราจร มีเพียงรถทหารและรถยกสูงเท่านั้น ที่สามารถแล่นผ่านได้
คาด กทม. 15 เขตมีฝนปานกลาง เฝ้าระวัง ตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืน
ประกาศเตือนฉบับที่ 5 อากาศแปรปรวน “ฝนตกหนัก-ลมกระโชกแรง-อุณหภูมิลด”
ตอนนี้เหลือเพียงถนนสายเลี่ยงเมือง 231 ฝั่งตะวันออก ที่เชื่อมระหว่างอำเภอวารินชำราย ไป อำเภอเมืองอุบลราชธานี ที่ยังพอสัญจรได้ แต่เริ่มมีน้ำไหลเข้าท่วมบริเวณ ช่วงบ้านบัวท่า-บังเทิง ซึ่งเส้นทางนี้ถือเป็นเส้นทางสุดท้ายที่รถเล็กยังพอสัญจรผ่านได้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งระดมกระสอบทราย 12,000 ใบ และบิ๊กแบ็ก 2,000 ใบ รวมถึงแบริเออร์อีก 400 อัน เพื่อทำแนวกั้นน้ำ รวมระยะทาง กว่า 2 กิโลเมตร เพื่อไม่ให้ส้นทางถูกตัดขาด
ขณะเดียวกันระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่งสูงกว่า 4 เมตร ทำให้ไหลเข้าท่วมในพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักหลายชุมชนในเขตอำเภอเมืองแ ละอำเภอวารินชำราบ บ้านเรือนจมหาย โผล่ให้เห็นแต่หลังคาบ้าน สร้างความเสียหายเป็ยวงกว้าง ขณะนี้มีพื้นที่ 19 อำเภอ 135 ตำบล 1,084 หมู่บ้าน ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
นอกจากนั้นจังหวัดยังได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินทางอุทกภัยจำนวน 15 อำเภอ พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย 309,710.75 ไร่ ล่าสุดสถานีวัดน้ำ M.7 บริเวณสะพานเสรีประชาธิปไตย ระดับน้ำอยู่ที่ 11.47 เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 4 เซนติเมตร สูงกว่าตลิ่ง 4.50 เมตร อยู่ในเกณฑ์วิกฤต
ทำให้หลายพื้นที่จมบาดาล บางพื้นที่ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์รับส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยหนัก ที่ต้องรีบส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ โรงพยาบาลประจำจังหวัด ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา กำแพงกั้นน้ำที่ห้าง ดูโฮม ศูนย์รวมจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง เครื่องมือช่างฮาร์ดแวร์ ของตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ชั้นนำครบวงจร อำเภอวารินชำราบ ถูกน้ำซัดพังน้ำไหลท่วมด้านในอาคารสินค้าเสียหายจำนวนมาก วิกฤตน้ำท่วมอุบลในครั้งนี้รุนแรงมากที่สุดในรอบ 44 ปี ทุบเศรษฐกิจเสียหายกว่า 5 พันล้านบาท