นายสมเกียรติ โรจนวรกมล ทนายความ เดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนมลงบันทึกประจำไว้และเข้าพบพล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เพื่อให้ตรวจสอบกิจกรรมการเดินแสวงบุญของ นายไชย์พล วิภา (ลุงพล) และทีมงาน
โดย นายสมเกียรติ บอกว่า ในฐานะตัวแทนประชาชน และมีความศรัทธาองค์พระธาตุพนม ทนไม่ได้หลังลุงพล และทีมงาน ออกมาประชาสัมพันธ์จัดกิจกรรมเดินแสวงบุญ จากบ้านเกิด จ.สกลนคร มุ่งหน้าไปยัง วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
พร้อมเปิดบริจาค ให้สายบุญบริจาคผ่านบัญชีตัวเอง เกรงว่าจะเป็นการฉวยโอกาสแอบอ้างวัดดัง เพื่อแสวงประโยชน์ส่วนตัว
นายสมเกียรติ บอกอีกว่า มีสายบุญบริจาคเข้ามาจำนวนหลักแสนบาทแล้ว โดยได้เข้าพบ พระมหากมลชัย กมโล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ซึ่งยืนยันว่า ลุงพลไม่มีการขออนุญาตจัดกิจกรรมเดินแสวงบุญและ ทางวัดพระธาตุพนม ไม่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมนี้
อย่างไรก็ตามคณะของลุงพล ยังคงเดินหน้าทำกิจกรรมวันที่ 2 เมื่อเช้าก็ได้เดินทางออกจาก วัดพระธาตุเจดีย์ศรีคันไชย หรือ วัดท่าเดื่อ ตำบลเดื่อศรีคันไชย อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร หลังพักค้างคืนเมื่อวานนี้ โดยมีทีมงานไลฟ์สดตลอดเวลา
นายสมเกียรติ บอกว่า เบื้องต้นได้ประสานกับทาง ทนาย อนันต์ชัย ไชยเดช ทนายกองทัพธรรม ผู้ดูแลฝ่ายกฎหมายของวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ยืนยันว่า ไม่สามารถที่จะเอาชื่อไปแอบอ้างเรี่ยไรได้
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม บอกว่า ต้องตรวจสอบว่า เงินที่ลุงพลรับบริจาคมาจะถูกนำไปให้วัดพระธาตุจริงหรือไม่ และแนะนำว่าหากประชาชนต้องการทำบุญกับวัดพระธาตุพนมให้โอนเงินเข้าบัญชีวัดโดยตรง